วันนี้ (6 พ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปากน้ำในอ.หลังสวน จ.ชุมพร คือ จุดสิ้นสุดของการระบายน้ำจากคลองต่างๆลงส่งสู่อ่าวไทย แต่พื้นที่ริมทะเลก็ถือเป็นด่านแรกที่พายุจะพัดผ่านเข้าปกคลุมพื้นที่ จนทำให้ฝนตก แต่ขณะนี้ปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ก็ยังไม่มาก แต่คนที่นี่เริ่มเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับพายุหลังกรมอุตุนิยมวิทยากลับมาประกาศเตือนอีกครั้ง โดยปริมาณน้ำในตอนนี้ยังคงยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงสีของน้ำยังใส ไม่ใช่สีขุ่นที่เกิดจากการเจือปนของหน้าดิน ขณะที่ตลอดช่วงบ่ายวันนี้ แม้ฟ้าจะครื้มเป็นบางเวลาแต่ฝนก็ไม่ได้ตกหนักในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ที่อ.หลังสวนยังถือว่าปกติ
ส่วนที่อ.พะโต๊ะ จุดที่หากมีฝนตกหรือน้ำไป่าไหลหลากน้ำจะไหลต่อมาที่อ.หลังสวน สถานการณ์ตลอดช่วงบ่ายก็ยังไม่ถือว่าวิกฤตเช่นกัน เพราะ ฝนตกเพียงเล็กน้อย แต่คนในพื้นที่เริ่มแจ้งเตือนและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เช่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่2 ต.ปังหวาน อ.พะโต๊ะ ที่แจ้งเตือนสถานการณ์ให้ลูกบ้านฟังระหว่างการประชุมหมู่บ้านประจำเดือน โดยผู้ใหญ่ระบุว่า ให้ชาวบ้านสังเกตปริมาณฝนที่ตก สีของน้ำ รวมถึงแมลงในพื้นที่ หากพบว่าผิดปกติอาจต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
ขณะที่คนพื้นที่มีการเตรียมพร้อม คือ การแจ้งให้ทุกคนเตรียมถุงยังชีพไว้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อดูแลตัวเอง เนื่องจากการเดินทางเข้าไปที่ต.ปังหวานค่อนข้างยากลำบาก ยังไม่นับรวมปัญหาเรื่องถนนขาดในกรณีที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก
สำหรับอ.พะโต๊ะและอ.หลังสวน ในกรณีที่เกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากที่อ.พะโต๊ะ น้ำจะใช้เวลาประมาณ4ชั่วโมง ก่อนจะไหลมาถึงอ.หลังสวน แต่หากฝนตกหนักพื้นที่หลังสวน อาจทำให้การระบายน้ำทำได้ช้าลง น้ำจะเอ่อท่วมเฉพาะที่หลังสวน โดยการระบายน้ำจะทำได้ยากเพราะอ.หลังสวนมีแม่น้ำที่ระบายน้ำลงสู่ทะเลอยู่แล้ว
ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่2 ต.ปังหวาน ยังบอกอีกว่า การจะสังเกตว่าฝนมีมากน้อยแค่ไหน เขาใช้วิธีวัดน้ำจากถ้วยตวง ถ้าฝนตกคราวเดียวเกินกว่า 25 มิลลิเมตร จะต้องเร่งแจ้งเตือนมาในพื้นที่อ.หลังสวน เพื่อให้เตรียมความพร้อม