กองทัพรวมภาพฝึก “นร.ทหาร-ทหาร” ต่างชาติ ทำรายงานชี้แจง
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าการเสียชีวิตของ นักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ เกิดจากสาเหตุใด เพราะขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย และยังต้องรอผลชันสูตรพลิกศพรอบที่สอง แต่สังคมก็มีการตั้งคำถามต่อข้อสันนิษฐานที่ว่า การธำรงวินัยด้วยการซ่อม หรือที่ในแวดวงทหารเรียกว่า ‘แดก’ ไม่ว่าจะในระหว่างการฝึก หรือนอกการฝึก บางอย่างอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้ฝึกหรือไม่ ซึ่งทางกองทัพก็มีความพยายามจะชี้แจงเรื่องนี้

วันนี้ (24 พ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพการฝึกนักเรียนทหาร และทหาร จากประเทศต่างๆ เป็นภาพที่ บก.ทัพไทย กำลังรวบรวมเพื่อทำรายงานชี้แจง หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ ว่าเกิดจากการฝึกหรือการทำโทษหรือไม่ โดยภาพเหล่านี้ เพจเฟซบุ๊กของคุณวาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ได้นำมาโพสต์ไว้พร้อมอ้างอิงข้อมูลจากกองทัพ หลัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการฝึกทหารมีบรรทัดฐาน แต่ขึ้นอยู่กับว่าไปทำอย่างอื่นนอกเหนือจากนั้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากทางครอบครัวของนักเรียนเตรียมทหารภคพงศ์ หรือ น้องเมย ระบุว่า รุ่นพี่ชั้นปีที่ 3 ลงโทษโดยให้ใช้หัวปักลงพื้น และเป็นการทำที่ตะแกรงเหล็กและถูกทำโทษเป็นเวลานาน
นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เปิดเผยว่า การธำรงวินัยด้วยการซ่อม เป็นการทำให้ศีรษะและเท้าเป็นตัวรับน้ำหนัก โดยปกติคนทั่วไปหากไม่ได้รับการฝึกจะทำให้บาดเจ็บได้ แต่คนที่ผ่านการฝึกแล้วก็ได้รับบาดเจ็บได้เช่นกัน ถ้าหากร่างกายมีความอ่อนแออยู่ในขณะนั้น สมมุติหากนอนห้อยหัวในช่วงเวลาสั้นๆ ก็จะทำให้ใบหน้าแดง เพราะเลือดจะไหลลงมาบริเวณที่ต่ำและบริเวณที่เกิดการรับน้ำหนัก ดังนั้นในคนทั่วไปเลือดก็จะไหลไปส่วนนั้นเยอะขึ้น โดยเฉพาะเยื่อหุ้มสมองชั้นกลางจะมีเลือดไปเลี้ยงเยอะมาก ทำให้เลือดมีแรงดันตรงนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าหากบุคคลนั้นเป็นโรคหลอดเลือดโป่งพองโดยที่ไม่รู้ตัว หรือมีโรคต่างๆ เกี่ยวกับหลอดเลือด ก็อาจทำให้หลอดเลือดแตกได้
ทั้งนี้คนทั่วไป หากทำท่าดังกล่าง เพียงแค่ 30 วิ ก็เริ่มมีอาการมึน แต่ถ้าคนที่ผ่านการฝึกฝนมาบางทีอาจจะไม่รู้ตัว พอทำไปเรื่อยๆ เลือดก็จะไหลมาคั่งที่สมองมากขึ้น เมื่อเลือดมาเลี้ยงแต่ที่สมองและเท้า อวัยวะส่วนอื่นในร่างกายก็จะขาดเลือดไป หรือเลือดไปเลี้ยงน้อยลง หรือถ้าใครมีภาวะหลอดเลือดตีบอยู่แล้ว และเกิดการสะสมบ่อยๆ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อขาดเลือดได้
โดยเท่าที่ทราบ น้องเมยมีสภาพร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจตีบ อาจจะทำให้ไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ เนื่องคนเรามีหลอดเลือดใหญ่ 3 เส้น ถ้าหลอดเลือดตีบไปหนึ่งเส้น และเหลือเพียง 2 เส้น จากนั้นพอทำกิจกรรมที่หนักเกินไป จะทำให้เส้นเลือดทั้ง 2 เส้น ได้รับความเดือนร้อนจนเลือดไปเลี้ยงไม่ทัน แต่ทั้งนี้ต้องดูว่า น้องเมยเจอตัวกระตุ้นอื่นหรือไม่ ที่ทำหลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ เช่น ความเครียด , ออกกำลังกายผิดท่านานเกินไป , การดื่ม หรือสารตัวอื่นที่กระตุ้นทำให้เลือดไหลเวียนไปส่วนอื่นมากเกินไป หรือความเครียดทางจิตใจอย่างอื่น
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้