ศ.ถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองปราบ พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวและพร้อมสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าตัวเองเป็นผู้เซ็นเบิกจ่ายเงิน ต้องยอมรับสภาพ เพราะขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีอยู่ แต่ยอมรับว่าต้องขอตรวจสอบลายเซ็นก่อนเพราะอาจมีการปลอมแปลงได้
ทั้งนี้ ศ.ถวิล ถูกแจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อคือ ร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมแปลงและใช้เอกสารสิทธิปลอม เป็นเจ้าพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ซื้อหรือจัดการรักษาทรัพย์ เบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปเป็นของตนเอง เป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กรของรัฐประพฤติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน
นอกจากนี้ ตำรวจยังดำเนินคดีนายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ อดีตผู้ช่วยอธิการบดี และนายศรุต ราชบุรี อาจารย์ประจำสถาบันฯ 3 ข้อหา คือ ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ซื้อหรือจัดการรักษาทรัพย์ เบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปเป็นของตนเอง เป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กรของรัฐประพฤติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน สำหรับนายสรรพสิทธิ์ ให้ทนายติดต่อว่าจะมาพบตำรวจรับทราบข้อหาในวันพรุ่งนี้
หลักฐานที่ตำรวจยืนยันดำเนินคดี ศ.ถวิล ได้มาจากหลักฐานการเซ็นต์โยกย้ายเงินจากบัญชีสถาบัน การลงนามเปิดบัญชีของสถาบันตั้งแต่ยังไม่ได้รับตำแหน่งอธิการบดี และยังพบว่ามีการลงนามปิดบัญชีของสถาบันหลังพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว นอกจากนี้ยังพบความเชื่อมโยงกับนายทรงกลด ศรีประสงค์ หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีนี้ โดย ศ.ถวิล เป็นผู้เซ็นต์รับรองความประพฤตินายทรงกลด หลังจากที่ธนาคารไทยพาณิชย์พบความผิดปกติในการทำหน้าที่ของนายทรงกลด
สำหรับ ศ.ถวิล หลังรับทราบข้อกล่าวหา ตำรวจส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ต่อมาญาติได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินเพื่อขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ ศ.ถวิล ประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 5 ล้านบาท ส่วนนายศรุต ญาติเตรียมหลักทรัพย์ไม่ทัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายศรุตไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี