“อินโดนีเซีย” ปิดสนามบินบาหลีหลังภูเขาไฟอากุงปะทุรุนแรง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยเป็นระดับสูงสุด พร้อมขยายเขตพื้นที่อันตรายรอบปากปล่องภูเขาไฟ และสั่งปิดสนามบินหลักบนเกาะบาหลี หลังภูเขาไฟอากุงปะทุรุนแรงขึ้น

สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพของโคลนไหลภูเขาไฟ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียก volcanic mudflow หรือ lahar ที่พบในพื้นที่ใกล้ภูเขาไฟอากุง เกิดจากการที่เถ้าถ่านภูเขาไฟที่สะสมตัวหนา ถูกฝนชะล้างจนไหลลงไปตามแหล่งน้ำ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตือนว่า อาจเกิดโคลนไหลภูเขาไฟเช่นนี้เพิ่มขึ้นได้อีกเนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน พร้อมแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมในแม่น้ำ

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ได้ยกระดับเตือนภัยบนเกาะบาหลีจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด พร้อมสั่งปิดสนามบินนานาชาติ “งูระห์ไร” ซึ่งเป็นสนามบินหลักบนเกาะ หลังภูเขาไฟอากุงยังคงปะทุพ่นกลุ่มควันและเถ้าถ่านสูงอย่างต่อเนื่อง

ผู้ว่าการเกาะบาหลี ระบุว่า เบื้องต้นสนามบิน “งูระห์ไร” จะปิดทำการจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการขยายเวลาออกไปอีก

ผลจากการปิดสนามบินทำเที่ยวบินได้รับผลกระทบ 445 เที่ยว และมีผู้โดยสารตกค้างเกือบ 6 หมื่นคน  โดยในส่วนของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เดนปาซาร์ เกาะบาหลี ระหว่างวันที่ 27-30 พฤศจิกายน เพื่อความปลอดภัย   

เช่นเดียวกับสายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์  ที่ปิดการให้บริการชั่วคราวทุกเที่ยวบินที่บินเข้า-ออก ท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไร ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ รวมถึงเที่ยวบินเข้า-ออกจากเกาะลอมบอก

อย่างไรก็ตาม  สนามบินบนเกาะลอมบอก ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเกาะบาหลี เริ่มกลับมาให้บริการบางส่วนตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ เจ้าหน้าที่สั่งปิดเป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีเถ้าถ่านจากภูเขาไฟปกคลุมทั่วทั้งรันเวย์ รวมถึงอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหาย และบดบังทัศนวิสัยของนักบิน

นอกจากนี้ ทางการอินโดนีเซียยังขยายเขตพื้นที่อันตราย จากเดิม 7.5 กิโลเมตร เป็น 10 กิโลเมตร รอบปากปล่องภูเขาไฟ และประกาศให้ประชาชนราว 1 แสนคนออกจากพื้นที่ทันที  ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีเพียง 40,000 คนที่อพยพตามคำเตือน โดยหลายคนไม่ยอมออกจากพื้นที่เพราะเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง

ก่อนหน้านี้ ภูเขาไฟอากุง ได้ปะทุไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พ่นกลุ่มควันและเถ้าถ่านสูง 700 เมตร ในอากาศ ก่อนจะเริ่มปะทุอีกครั้งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยครั้งรุนแรงที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ มีกลุ่มควันและเถ้าถ่านสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 7,000 เมตร

ด้านนักภูเขาไฟวิทยาระบุว่า ภูเขาไฟอากุงได้เข้าสู่ช่วงของการปะทุของแม็กม่าแล้ว โดยสามารถสังเกตเห็นได้จากปากปล่องภูเขาไฟ  ซึ่งหมายความว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดการปะทุรุนแรงกว่านี้  

สอดคล้องกับโฆษกสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียที่เตือนว่า จากข้อมูลที่ได้รับจากศูนย์เฝ้าติดตามภูเขาไฟ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทุที่ใหญ่กว่าตอนนี้อีกหลายครั้ง  แต่การระเบิดของภูเขาไฟอากุงครั้งนี้อาจไม่รุนแรงเท่ากับเมื่อ 50 ปีก่อน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้ยังยากเกินจะคาดเดา ไม่มีใครรู้ว่าภูเขาไฟจะระเบิดรุนแรงหรือไม่ และจะปะทุต่อเนื่องแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน

 

ขอบคุณภาพจาก AFP

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ