วันนี้ (4 ม.ค.61) พระมหาไพรวัลย์ พระวัดสร้อยทอง กล่าวถึงการปลุกเสกกระเป๋าขายของหลวงพี่น้ำฝน ว่า กระเป๋าที่ปลุกเสกไม่ใช่เครื่องระลึกถึงพระพุทธคุณ จะทำให้วัดเสื่อมศรัทธา และอนาคตอาจเกิดการเลียนแบบจนทำให้วัดมีสภาพไม่ต่างจากร้านค้า หากหลวงพี่น้ำฝนอยากช่วยเหลือโรงพยาบาลตามที่กล่าวอ้าง ควรแจกพระพุทธรูปและเชิญชวนประชาชนเข้าวัดทำบุญดีกว่า
โดยถึงแม้จะยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าการปลุกเสกกระเป๋าเข้าข่ายวัตถุมงคลหรือไม่ แต่พระมหาไพรวัลย์ ระบุว่า หากการกระทำนี้เป็นไปตามประกาศห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลในพระอุโบสถ เท่ากับว่า หลวงพี่น้ำฝนไม่เคารพคำสั่งของมหาเถรสมาคม
ขณะที่คำสั่งที่ออกมาช่วงเดือนกันยายน ปี 2560 เรื่องห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลในพระอุโบสถ กำหนดว่า ห้ามติดแผ่นป้ายโฆษณาพระพุทธรูป และห้ามจำหน่ายพระเครื่อง วัตถุมงคล และเทวรูปภายในบริเวณวัดและพระอุโบสถ แต่กลับไม่ห้ามจำหน่ายภายในวิหาร
อย่างไรก็ตาม ประชาชนทยอยเดินทางมาซื้อกระเป๋าลายยันต์ที่จัดทำขึ้นโดยวัดไผ่ล้อมกลับไปใช้และบูชาอย่างต่อเนื่อง บางรายนำกระเป๋าที่ซื้อแล้วมาให้พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจิมให้ด้วย
ด้าน หลวงพี่น้ำฝน ระบุว่า วัตถุประสงค์ และความตั้งใจหลักในการจัดทำกระเป๋าขึ้นมา เพราต้องการนำเงินที่ได้ไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลนครปฐม เงินทั้งหมดนำเข้ากองทุนหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดทั้งหมด พร้อมชี้ว่าไม่ได้ทำผิดระเบียบ ข้อห้ามของวัด เนื่องจากไม่ได้ขายภายในอุโบสถ ส่วนป้ายที่ติดประกาศเกี่ยวกับกระเป๋าภายในวัดก็ไม่ได้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ จึงไม่คิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม หรือผิดระเบียบของสงฆ์ ยืนยันว่าไม่ได้ทำออกมาจำหน่ายในลักษณะเป็นพุทธพาณิชย์
ทั้งนี้ ล่าสุดได้เงินจากการจำหน่ายกระเป๋ามาแล้วกว่าล้านบาท หลวงพี่ให้ข้อมูลว่าเตรียมนำเงินส่วนนี้ไปซื้อเตียงให้กับโรงพยาบาลก่อน และจะนำเงินที่ได้หลังจากนี้ทยอยซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ เพิ่มเติมต่อไป
