ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหภาพพยาบาลแห่งประเทศ ออกแถลงการณ์ตอบโต้คำสั่งกระทรวงสาธารณสุข หลังรู้สึกว่าคำสั่งดังกล่าวสร้างความอึดอัดใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและความรู้สึกของคนทำงานแน่นอน พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าผู้ที่เกี่ยวข้องรับรู้ปัญหาการทำงานของพยาบาลดีพอหรือยัง เช่น ค่าตอบแทนการเข้าเวรพยาบาล การเยียวยากรณีเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ และการสละเวลาเพื่อครอบครัวมาดูแลชีวิตผู้อื่น โดยเห็นว่าการออกคำสั่งเช่นนี้เท่ากับว่า เพิ่มความเหลื่อมล้ำและกดดันคนทำงาน
โดยนางสาวจารุจิต ประจิตร รองประธานสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย อธิบายว่า ในทุกวันแพทย์พยาบาลจะใช้โทรศัพท์ส่วนตัว ประสานงานส่งต่อคนไข้ และรายงานผลการตรวจผ่านไลน์กลุ่มในลักษณะการถ่ายภาพผลเอกซเรย์ ถ่ายคลิปอาการคนไข้ ที่ต้องทำแบบนี้เพราะรวดเร็ว ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ทัน ประกอบกับโทรศัพท์โรงพยาบาลไม่เพียงต่อการใช้งาน บางโรงพยาบาลถึงขั้นระดมทุนซื้อโทรศัพท์ไว้ใช้งานในห้องฉุกเฉิน ซึ่งคำสั่งดังกล่าวจะทำให้การรักษาผู้ป่วยล่าช้าแน่นอน
ล่าสุดนพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงมีคำสั่งให้ทบทวนประกาศมาตรการป้องกันการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ โดยจะหาแนวหาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นผลดีต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะปกติต้องใช้โทรศัพท์ส่วนตัวติดต่อประสานงานเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และหากแบตหมดการทำงานก็จะล่าช้า