วันนี้ (15 ม.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนะพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมของนางสาวณิชาหลายจุด จุดแรกคือการออกมาโพสต์กระทู้ในเว็บไซต์พันทิป ไล่เลียงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งตรวจสอบพบว่ามีชื่อของตัวเองไปเปิดบัญชีกับ 7 ธนาคารรวม 9 บัญชี จุดนี้นายอัจฉริยะ ระบุว่า หาก น.ส.ณิชา มั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ เหตุใดจึงยอมถูกจับ และไม่นำหลักฐานเอกสารยื่นต่อสู้กับตำรวจตั้งแต่ต้น
โดยอีกข้อสังเกตสำคัญของนายอัจฉริยะ คือ ในระยะเวลาไม่นานนางสาวณิชาทำบัตรประชาชนหายถึง 3 ใบ คือในปี 2557 1 ครั้ง และปี 2560 2 ครั้ง ในเดือนกันยายนและตุลาคม หากเป็นไปตามข้อมูลการหลอกลวง คือ บัตรประชาชนของน.ส.ณิชา ตกไปอยู่ในมือผู้ร่วมขบวนการของนายไซม่อน ประเด็นสำคัญที่ตำรวจกำลังหาหลักฐานคือ บัตรประชาชนของณิชาที่หายไป 3 ครั้ง ไปอยู่ที่ผู้ต้องหากลุ่มของนายไซม่อนกี่ใบ ถ้ามากกว่า 1 ใบ อาจมีพิรุธ
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ระบุว่า จากกระทู้พันทิป นางสาวณิชาบอกว่าวันที่ 8 ธ.ค. มีพนักงานจากธนาคารไทยพาณิชย์โทรไปหาเพื่อแจ้งว่า พบความผิดปกติของเงินในบัญชี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบทั้งหมด แต่นายอัจฉริยะยังอ้างว่า จากการตรวจสอบโดยแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ไม่พบว่ามีเบอร์จากธนาคารไทยพาณิชย์โทรไปหาน.ส.ณิชาในช่วงเวลาดังกล่าว ที่สำคัญหากบัญชีนั้นถูกเปิดโดยมิจฉาชีพ ทางธนาคารจะมีเบอร์ของน.ส.ณิชาได้อย่างไร
ทั้งนี้เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ถึงข้อสังเกตแรกที่ว่าเหตุใดน.ส.ณิชาไม่เอาเอกสารหลักฐานยื่นให้ตำรวจเพื่อต่อสู้แสดงความบริสุทธิ์ตั้งแต่แรก โดยได้รับข้อมูลว่า น.ส.ณิชาได้ยื่นเอกสารให้ทางกองปราบฯตั้งแต่แรกแล้ว แต่สาเหตุที่ต้องฝากขังเป็นไปตามขั้นตอนทางกฏหมาย ส่วนข้อสงสัยที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างสืบสวนฯ ขณะนี้ยังไม่ได้ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านางสาวณิชาตกเป็นแพะตามที่อ้างหรือไม่