“จีน-อินเดีย” กับความพยายามแก้ปัญหาหมอกควัน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ปัญหาฝุ่นละออง อยู่คู่กับกรุงเทพมหารครมานานแล้ว แต่ระดับความรุนแรงของปีนี้ค่อนข้างมากจนส่งผลกระทบชัดเจน หลายฝ่ายพยายามแก้ไขแต่ติดเงื่อนไขหลายอย่าง ไม่ต่างไปจากเมืองใหญ่ เช่น กรุงนิวเดลี และกรุงปักกิ่ง ที่พยายามออกมาตรการมาเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว

วันนี้ (16 ก.พ.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองในหมอกที่ไม่น่าพิศมัย เพราะหมอกที่เกิดขึ้นเป็นฝุ่นควันที่สร้างปัญหาและเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากสูดดมเข้าไป ขณะที่ภาครัฐก็รับทราบกับปัญหานี้ และพยายามหาหนทางแก้ไข โดยหากหันมองไปที่เมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ยังมีหลายเมืองที่กำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ เช่น กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งแต่ละเมืองก็พยายามหาทางแก้ไขกันอย่างเต็มที่ และก็ได้ผลมากน้อยแตกต่างกันไป

ทั้งนี้กรุงนิวเดลี ที่ต้องเผชิญปัญหานี้อย่างรุนแรง ได้ออกมาตรการต่าง ๆ ออกมามากมาย เช่น จำกัดการใช้รถยนต์ ขึ้นราคาค่าจอดให้แพงขึ้น 4 เท่าตัว เพื่อให้คนหันไปใช้ระบบขนส่งมวลชนแทน นอกจากนี้ยังห้ามจุดพลุไฟในเทศกาลต่าง ๆ เพราะอินเดียมีศาสนา และลัทธิมากมาย แต่ละลัทธิก็นิยมใช้พลุประกอบกับการทำพิธีบวงสรวง แต่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คือ จะมีการพ่นละอองน้ำที่ความสูง 100 เมตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่า วิกฤตครั้งนี้หนักหนาสาหัสทีเดียว

ขณะที่ประเทศจีน มีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะมีการวางแผนปฏิบัติการในระยะยาวคือ 5 ปี และทุกภาคส่วนต่างก็มีหน้าที่ในการรับผิดชอบร่วมกัน อย่างรถยนต์ ทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้ รวมไปถึงบริษัทน้ำมัน ล้วนต้องรับผิดชอบร่วมกันในบทบาทของแต่ละคน ซึ่งในส่วนอื่น ๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่จีนกลับมองเห็นและเข้มงวด คือ ห้ามขายอาหารปิ้งย่างตามท้องถนน ห้ามเผาใบไม้ทุกชนิด ส่วนเทศกาลสำคัญ ๆ อย่างตรุษจีน ก็ห้ามจุดพลุไฟ โดยรวมแล้ว จีนมีโครงการกำจัดฝุ่นไว้มากถึง 81 โครงการ ที่ต้องทำให้สำเร็จภายใน 5 ปี

โดยสำหรับมาตรการห้ามย่างบาบีคิวนั้น จังหวัดเชียงใหม่ ในประเทศไทย ก็เคยคิดจะนำมาใช้ ซึ่งจะเน้นไปที่ร้านหมูกระทะ แต่ก็โดนเสียงวิจารณ์จนต้องพับโครงการไป และเมื่อหันมามองที่กรุงเทพมหานคร มีหลายมาตรการกที่น่าจะเหมาะสม เช่น การลดปริมาณการใช้รถเช่นแบ่งวันคู่วันคี่ ซึ่งรัฐบาลก็เคยมีความคิดเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนเมืองกรุง จะต่อต้านจนทุกอย่างเงียบหายไป ส่วนการรณรงค์ให้ใช้ระบบขนส่งมวลชน ก็ไม่ได้รับความสะดวกสบาย แต่อีกไม่นานน่าจะดีขึ้นบ้าง เพราะระบบรถไฟฟ้ากับขยายโครงข่าย ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสนับสนุนให้คนกรุงหันมาใช้ระบบนี้กันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ดังกล่าว ไม่ใช่ความผิดของใครฝ่ายเดียว ภาคเอกชนก็ต้องช่วยกัน สถานการณ์คงน่าจะดีขึ้น แต่ในส่วนของภาครัฐก็คงต้องรอ เพราะจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีใครออกมาพูดหรือลงมือทำให้ชัดเจน

 

 

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ