กลายเป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากสำหรับประเด็นการ “เซ็ท ซีโร่” (Set Zero) ฆ่าสุนัขจรจัดให้หมด หลังจากเกิดโรคพิษสุนัขบ้าระบาดในประเทศไทย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในปีนี้ 4 ราย เรื่องนี้นับเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนไทย และทำให้หลายคนกังวลว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลง เมื่อประเด็นนี้ถูกเผยแพร่ออกมาทำให้มีความคิดเห็นหลายฝ่ายทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
วันนี้ (14 มี.ค.61) นพ.วิทวัส ศิริประชัย เจ้าของเพจ Drama-addict ที่เห็นด้วยกับการ “เซ็ท ซีโร่” สุนัขจรจัด เปิดเผยในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า หากจะเรียกว่าเป็นการล้างบางนั้นก็คงจะเวอร์ไปหน่อย ตนอยากให้ทำแนวทางแบบที่ต่างประเทศเขาทำกันคือ นำสุนัขจรจัดมาทำหมัน และหาบ้านพักพิงให้กับมัน แล้วก็หาคนรับเลี้ยง หาบ้าน แต่เราควรกำหนดเวลาไว้ว่า หากไม่สามารถที่จะหาบ้านให้ได้ ก็จำเป็นต้องนำสุนัขเหล่านั้นไปกำจัด ในต่างประเทศเขาก็ทำกันแทบทุกประเทศ แต่ในประเทศไทยนั้นไม่มีใครกล้าทำ และคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้ก็น้อย ก็จะโดนคนที่รักสุนัขออกมาโจมตี และอ้างว่าเมื่อไทยเป็นเมืองพุทธจึงทำให้สถานการณ์มันเป็นแบบนี้ จากสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าที่ติดเชื้อก็มีสูงขึ้น
“เข้าใจคนที่รักหมาเขาก็ไม่อยากให้ไปฆ่าชีวิตมันโดยที่ไม่จำเป็น แต่เรามาในจุดที่หมาจรจัดมันเยอะเกิน มันเพิ่มแบบทวีคูณ ถ้าเราไม่มีมาตรการการควบคุม เราก็ปล่อยให้มันมีการเพิ่มจำนวนต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็มีคนอ้างว่ารักหมาแต่ไม่มีความรับผิดชอบก็เอามาปล่อย ให้อาหารในที่สาธารณะเรื่อยๆนั้นมันแก้ไม่ได้หรอก”
นพ.วิทวัส กล่าวต่อว่า มีคนบอกว่าการนำสุนัขจรจัดไปกำจัดนั้นไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดได้ เพราะปริมาณมันก็มีเพิ่มมาเรื่อยๆ ส่วนนี้ตนก็เห็นด้วย ที่ผ่านมามีหลายมาตรการแต่ทำไม่สำเร็จปริมาณสุนัขจรจัดยังเพิ่มขึ้น แต่ในเมืองไทยต้องใช้ทุกมาตรการควบคู่กันไป ถ้ามันไม่มีทางเลือกก็จำเป็นต้องฆ่า ซึ่งเป็นส่วนน้อย
“ต้องรณรงค์ให้คนเห็นว่า “ถ้าคุณรักหมาแบบไม่สติ เลี้ยงหมาแบบไม่มีความรับผิดชอบ แล้วผลสุดท้ายมันจะเป็นอย่างไร เพื่อให้คนตระหนักรู้ว่าต้องรับผิดชอบและช่วยกันดูแลสุนัขมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบทุกวันนี้ คือให้ใครก็ได้ที่รู้สึกอยาได้บุญนำอาหารและน้ำไปให้สุนัขจรจัด ในหมู่บ้านคนอื่น พอให้เสร็จก็กลับไป ส่วนคนในชุมชนก็เดือดร้อนเพราะสุนัขจรจัดเพิ่มปริมาณมากและทำอะไรไม่ได้เลยเพราะมีกฎหมายควบคุม แต่ถ้าจะกำจัดสุนัขจรจัดก็ต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะมันมีกฎหมายควบคุมอยู่ หากบอกว่าเมืองพุทธใจบุญ อีกกี่สิบชาติก็แก้ปัญหานี้ไม่ได้ ” เจ้าของเพจ Drama-addict เสนอ
นพ.วิทวัส ย้ำว่า เห็นด้วยกันการที่ต้องแก้ปัญหาระยะยาว แต่การแก้ปัญหาระยะยาวเหล่านี้จะมาสามารถมาแก้ไขจำนวนของสุนัขจรจัดที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจำนวนมากในตอนนี้ได้อย่างไร เพราะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก และสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากคนที่เลี้ยงไม่มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุนัข ทำให้มีจำนวนสุนัขเลี้ยงมากกว่าครึ่งติดเชื้อพิษสุนัขบ้ากว่าสุนัขจรจัด และคนไทยจำนวนมากยังมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าที่เข้าใจว่าโรคนี้สามารถรักษาหายได้ ควรจัดระเบียบก่อนรอบหนึ่งเพื่อที่ในอนาคตไม่ต้องมาทำลายชีวิตสุนัขและแมวต่อ
ขณะที่ "สญ.พ.ภัทรนันท์ สัจจารมย์" สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย WATCHDOG THAILAND ระบุว่า หากกำจัดสุนัขจรจัดทั้งหมดไปก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา พราะต้นเหตุเกิดจากคนนำไปปล่อย แต่ถ้ายังแก้ต้นเหตุเหล่านี้ไม่ได้ ถ้าจะควบคุมคนไม่ให้ปล่อยสัตว์อย่างไร ตอนนี้มีโทษปรับในการปล่อยสัตว์ แต่เรายังไม่ได้มีการฝังไมโครชิพว่าเจ้าของคือใคร ถ้ามีการฝังไมโครชิพก็จะมีการระบุถึงเจ้าของได้ หมอมองว่าควรจะแก้ที่วิธีอื่นและใช้กฎหมายอื่นควบคู่กันไป เราต้องจัดระเบียบ “คน”ในสังคมเราก่อนไปแก้ที่ปลายเหตุ เช่น ถ้าตอนนี้มีหมาจรจัดเต็มไปหมด แล้วเราก็ฆ่ามันไปให้มัน ถ้าคนปล่อยอีกก็เกิดเป็นหมาจรจัด ก็ฆ่าไปเรื่อยๆ โดยที่ต้นเหตุโดยที่ไม่ได้แก้ แม้จะมีฝ่ายที่บอกว่าหากไม่แก้ปัญหานี้ก็จะทวีคูณตามจำนวนหมาจรจัดนั้น “สญ.พ.ภัทรนันท์” มองว่า ควรเริ่มที่นำกฎหมายสิ่งที่มีไว้ก่อน แม้บางฝ่ายอยากจะทำเซ็ทซีโร่ แต่ก็ยังทำไม่ได้เพราะยังมีกฎหมายควบคุม ไม่ให้ทารุณกรรมสัตว์ และเขามีสิทธิที่จำดำรงชีวิตอยู่ได้ ถ้าจะทำก็ต้องเปลี่ยนกฎหมายก่อน
“ในทางกฎหมายนั้นถ้าสุนัขตัวนั้นเป็นโรคแล้ว กฎหมายบอกว่าต้องทำลายก็คือต้องทำลาย อันนี้หมอเห็นด้วย เพื่อไม่ไปแพร่กระจายให้กับตัวอื่น และแพร่เชื้อให้กับคน ตัวสุนัขที่ติดเชื้อเองเขาก็ทรมานอยู่แล้วกับการติดเชื้อและรักษาไม่หาย หมอมองว่าการตายอย่างทรมาน กับตายที่ฉีดยาให้ไปอย่างสงบเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และจุดเริ่มของหมาจรจัดก็คือหมาที่มีเจ้าของ ควรจะมีการขึ้นทะเบียนสุนัข และกำหนดว่าบ้านนี้เลี้ยงได้กี่ตัว น่าจะดีกว่า ในตอนนี้ที่มันระบาดคือเราต้องเอาวัคซีนลงไปฉีด การฆ่าไม่ได้เกิดประโยชน์ในตัวที่ไม่ได้เป็น มันเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่มันมีความรู้สึกมันก็ไม่ยากตาย”
ขณะที่ “โรเจอร์ โลหะนันท์” เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย มองว่า ในเรื่องนี้ถ้าไม่มีทางออกจริงๆมันก็ต้อง “กำจัด” แต่ในเรื่องนี้มันยังมี “ทางออก” จริงๆตนเห็นด้วยกับ เจ้าของเพจ Drama-addict ในเรื่องของ “เซ็ทซีโร่” ที่เป็นการตีความจนเวอร์ จากโลกโซเชียล ที่เวลาถกกันแล้วมันลามปาม ตนเชื่อว่าไม่มีใครอยากจะมาล้างบางหมาจรจัด 8 แสนตัวในประเทศ และเชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เราทำงานเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ เราไม่ได้บูชาสัตว์ เราเอาตัวเลขมาคุยดีกว่าว่าเราจะต้องแก้อย่างไร ข้อแรกเราฆ่าไม่ได้หมดแน่สุนัขจรจัด 8 แสนตัว แต่ตัวไหนมันจำเป็นต้องฆ่าก็ฆ่าได้ แต่เรื่องการฆ่าให้หมดนั้นเป็นเรื่องที่น่าจะเข้าใจกันผิด อาจจะเถียงกันจนเกินเลย ในทางสถิติเรามีการฆ่าสุนัขกันตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 ตั้งแต่มีพ.ร.บ.โรคพิษสุนัขบ้าฉบับแรก จนถึงปี พ.ศ.2535 ก็พบว่าปริมาณสุนัขจรจัดไม่ได้ลดลง เนื่องจากคนยังปล่อย
“จะจับสุนัขมาฆ่ามันไม่ใช่ง่ายๆ เพราะเขาหลบซ่อน จะจับมาฆ่าหรือจับมาทำหมันมันก็จับยากเหมือนกัน ที่บอกว่าจำนวนเพิ่มเพราะไม่ฆ่ามันไม่ถูก ต้องแยกว่าจำนวนสุนัขกับการแก้ไขโรคพิษสุนัขบ้ามันคนละเรื่องกัน ทุกวันนี้เราไม่ได้ห่วงเรื่องจำนวนสุนัข แต่เราห่วงเรื่องโรคพิษสุนัขบ้าที่เราไปมองว่ามาจากสุนัขบ้า จากสถิติสุนัขส่วนใหญ่ที่กัดคนเป็นสุนัขเลี้ยง มีเจ้าของ”
เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย ย้อนเล่าว่า ที่ผ่านมาเมืองไทยเคยได้มีการฆ่าสุนัขจำนวนมาก เอายาพิษป้ายปากให้ตายแต่หลังจากปี พ.ศ.2535 พอสังคมเปลี่ยนคนเริ่มรู้จักคำว่า “คุณธรรม” ก็หันมาดูวิธีที่สากลเขาใช้ คือให้ใช้การ “ทำหมัน ฉีดวัคซีน ควบคุมประชากร” แต่เขาไม่ได้ห้ามฆ่า แต่การฆ่าและทำหมันนั้นเรามองว่าเป็นปลายเหตุ 40-50 ปี หากเราฆ่าแต่เราไม่ห้ามคนปล่อยก็แก้ไม่ได้ ที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า “ฆ่าอย่างเดียว” ไม่ได้ผล ในต่างประเทศก็มีวิธีการค่อยเป็นค่อยไป ในการออกระเบียบ และเขาป้องกันไม่ให้ “การปล่อย” ก่อน แม้จะมีข้อระเบียบออกมา แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจตามบ้าน ไม่มีการนำสุนัขไปขึ้นทะเบียน ปัญหาเหล่านี้คือปัญหาที่ระบบกับคน แล้วกฎหมายไทยก็อ่อนมาก แม้จะมีพ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ ในข้อของการห้ามทิ้งสัตว์ แต่ไม่มีใครพูดถึงการขึ้นทะเบียนสุนัข เรายังมีคนที่เพาะเลี้ยงสุนัขได้โดยที่ไม่มีกฎเกณฑ์ เมื่อเพาะพันธุ์มาเยอะก็นำมาขายได้ถูกๆ คนก็ซื้อได้ถูกๆ เอาไปเลี้ยงได้ง่ายๆ แต่ไม่มีการเรียนเรื่องความรับผิดชอบ เมื่อปล่อยออกมานอกบ้าน ก็ท้อง หรือติดเชื้อกลับไป ส่วนสาเหตุในปัจจุบันนี้ต้องดูสาเหตุว่าเพราะอะไรจึงเกิดโรคพิษสุนัขบ้าระบาดขึ้นมาอีก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องฆ่า ซึ่งเป็นปัญหาที่ระบบราชการในการโอนอำนาจไปในองค์กรท้องถิ่น รวมทั้งคาดว่าน่าจะเป็นปัญหาวัคซีนหมดอายุ ทำให้คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้โรคนี้กลับมา
ชมคลิปที่นี่.. “จ่าพิชิต” หนุนเซ็ทซีโร่ “หมาจรจัด” หยุด ”พิษสุนัขบ้า” ยกโมเดล “ญี่ปุ่น” ก็เคยฆ่า 3 แสนตัว