มัคคุเทศก์ยันคลิป “ฝืนยิ้มคล้องพวงมาลัย” ไม่กระทบการท่องเที่ยว
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
คลิปวิดีโอของชาวจีนไม่ว่าจะเป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำขึ้นเพื่อล้อเลียนหลังมีการเผยแพร่ภาพหญิงชุดไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวในลักษณะไม่เต็มใจ และฝืนยิ้มจนเห็นได้ชัด จากคลิปที่ถูกล้อเลียนจำนวนมากทำให้หลายคนหวั่นว่าส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย และนักท่องเที่ยวชาวจีนจะมาเที่ยวไทยลดน้อยลงจากคลิปล้อเลียนที่เกิดขึ้น

“อินทิรา แซ่ฟุ้ง” กรรมการชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีน เปิดเผยในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าว หลังจากเห็นคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่แล้ว ระบุว่า เมื่อได้ดูคลิปแล้วรู้สึกสงสารผู้หญิงที่ถูกถ่ายคลิป จริงๆการคล้องพวงมาลัยมีมานานมากแล้ว เมื่อ 20 ปีที่แล้ว จะมีการคล้องพวงมาลัยเป็นการคล้องเพื่อต้อนรับกลุ่มวีไอพี กลุ่มที่มาสัมมนา แต่จะไม่มีการยืนถ่ายรูปตอนคล้องต้อนรับ แต่ปัจจุบันเป็นการคล้องพวงมาลัยเพื่อถ่ายรูป กลายเป็นธุรกิจ เป็นการหารายได้ มันต่างจากสมัยก่อนเยอะมาก สมัยก่อนไม่มีทัวร์จีน จะมีแต่ชาวฮ่องกง ชาวมาเลเซีย แต่พอระยะหลังมีชาวจีนเข้ามาเยอะก็เกิดธุรกิจแบบนี้เพื่อหารายได้ของกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง พวกนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัทนำเที่ยว ยกเว้นว่าบริษัทนำเที่ยวนั้นมีกลุ่มที่เป็นวีไอพีมาบริษัทอาจจะสั่งมาว่าต้องใช้พวงมาลัยต้อนรับ
กรรมการชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีน เล่าว่า ส่วนตัวทำทัวร์นักท่องเที่ยวฮ่องกง จะไม่มีการถ่ายรูปแบบนี้ แต่ที่มีคือทัวร์จีน ไม่ใช่ทุกทัวร์ที่จะมีการถ่ายรูปแล้วคล้องพวงมาลัยทุกทัวร์ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะตกลงกับไกด์คนไหน ว่าอยากถ่ายไหม หรือไม่ถ่าย ถ้าไกด์ไม่ยอมก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะที่จอดมันมีน้อย เวลาเที่ยวบินลงมาแต่ละไฟล์ทก็หลายสิบกรุ๊ป ทุกคนต้องทำเวลา ที่แล้วสนามบินสุวรรณภูมิยกเลิกไม่ให้ทำเช่นนี้มาประมาณ 2 ปีแล้ว คาดว่าน่าจะมีปัญหาล่าช้า แต่ไม่เป็นข่าวแบบนี้ เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้วกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะนัดแนะกับไกด์ว่า ไปทานข้าวที่ไหน พักที่ไหน แล้วก็จะนำรูปไปขายให้กับนักท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ได้ขายได้ทุกใบ
“การอนุญาตของไกด์นั้นส่วนตัวมองว่าไม่ผิด บางครั้งก็คิดว่าช่วยให้เขามีรายได้ เด็กที่ใส่ชุดไทยมา อาจจะเป็นนักศึกษาที่มารับงานพิเศษ ต้องใช้เงินตรงนี้เพื่อไปเรียนต่อ แล้วต้องใส่ชุดไทย ยืนคล้องพวงมาลัยให้คนเป็นจำนวนมาก ด้านนอกที่อากาศค่อนข้างร้อน ตรงนี้ที่เราเป็นมัคคุเทศก์เราก็เห็นใจเขา”
เหตุการณ์นี้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน “อินทิรา” วิเคราะห์ว่า ไม่ได้ร้ายแรง แต่เป็นการล้อเลียนมากกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มาเมืองไทย เพราะเมืองไทยน่าเที่ยวและของก็ถูก ต่อคนต้องมาอย่างต่ำ 3 ครั้ง ที่มีการแชร์กันไปล้อมีทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่คนจีนชอบล้อเลียน ชอบความสนุกสนาน หากเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนที่มีคลิปคนจีนกินกุ้งแบบบุฟเฟต์ คนไทยก็ไม่ได้เอามาล้อเลียน ซึ่งเขาหนักกว่าเราอีก หรือพฤติกรรมของคนจีนที่แย่ๆ มีคนไทยแชร์ไป แต่คนจีนเขาก็ยังมาเที่ยวเมืองไทยอยู่ดี
ด้าน “วิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์” ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย มองว่า คลิปล้อเลียนที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันแล้วถูกนำไปล้อเลียนในเรื่องต่างๆ ว่าใครจะนำไปทำอะไร ส่วนตัวมองว่าอาจจะไม่ได้เสียภาพลักษณ์ในแง่ที่เป็นห่วงกันมากขนาดนั้น แต่ที่หลายคนรู้สึกเป็นกังวลเนื่องจากมีการแชร์ออกมามาก ขณะที่การคล้องพวงมาลัยนั้นมีมานานมากแล้วตั้งแต่สมัยสนามบินดอนเมือง เป็นบริการอย่างหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ที่บริษัทนำเที่ยวอาจจะมาว่าจ้างผู้ที่มาจ้างในลักษณะนี้ที่อยู่ประจำ ก่อนจะไปขึ้นรถบัสแขวนพวงมาลัยให้ก็เป็นบริการที่อยากจะสร้างความประทับใจของความเป็นไทยส่วนหนึ่งสมัยก่อน คนที่นำไปทำคลิปล้อเลียนก็แค่ทำไปเพราะอารมณ์ขัน เหมือนกับระยะหลังจะมีการทำทัวร์ที่มีการถ่ายรูป ว่าเรามีรูปอยู่ในจาน เหมือนเช่นตามที่ท่องเที่ยวต่างๆ
“ก็เหมือนกับอาชีพอื่นๆเช่นเด็กเสิร์ฟที่เวลามีคนน้อยกับคนมากก็มีสีหน้าที่ต่างกันเหมือนกัน ส่วนตัวก็เข้าใจผู้หญิงในคลิปว่างานหนักเพราะทัวร์จีนมันเยอะ พอทำมากๆมันก็ต้องฝืนยิ้ม ยิ้มกันไม่ทัน และเราต้องดูว่ารายได้เขาเท่าไหร่ อะไรที่ทำลวกๆในปริมาณที่มากคุณภาพมันก็ตกกันทั้งนั้น อย่างกรณีนี้ก็ทำให้มองไปถึงการจัดการในการหาคนมาทำงานว่ามีการอบรมอย่างไร แต่เราอย่าลืมว่าเรายังมีเรื่องเลวร้ายในการท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกมาก นี่เป็นเสี้ยวหนึ่งเท่านั้นที่ถูกหยิบยกมาทำ ถ้าหากทำจริงๆมีทุกคนทุกหน้าที่ที่จะเลือกปฏิบัติ ทุกวันนี้การท่องเที่ยวในที่ต่างๆ มักจะมองลูกค้าเป็นเหยื่อ ที่ต้องหาเงินจากเขาให้ได้มากที่สุด”
นอกจากนี้ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย มองว่า ปัญหานี้ไม่ได้ปัญหาใหญ่ อย่าไปมองในแง่ลบเสียทีเดียว แล้วสิ่งดีๆก็มีทำไมคุณไม่เอาคลิปมาออก หากเราเห็นแบบนี้ เราก็ต้องรีบเรียกคนของเรามาอบรม ฝึกคนของเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ ไม่ใช่เรื่องที่เสียภาพลักษณ์มากขนาดนั้น ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นกระจกสะท้อนให้เราอย่างดี แม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้วที่ตนเคยไปก็มีพวกที่หวังจะเอาเงินจากนักท่องเที่ยวก็มีพฤติกรรมที่เสื่อมเสียเช่นกัน
ขณะที่ “พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล” รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวถึงความคืบหน้าในกรณีนี้ว่า ล่าสุดได้มีการเชิญบริษัทนี้รวมทั้งตัวผู้หญิงที่แต่งชุดไทยในคลิปมาพูดคุยแล้ว ซึ่งบริษัทนี้อยู่ในเพคเกจของบริษัททัวร์ บริษัททัวร์อาจจะไปจ้างมาอีกทีหนึ่ง ส่วนการถ่ายรูปคล้องพวงมาลัยก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามที่นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคลที่อาจจะเหนื่อยล้า และอ่อนเพลีย โดยน้องคนนั้นก็ได้ยอมรับผิดทุกอย่างและ ขอโทษคนไทยทั้งประเทศต่อหน้าสื่อมวลชนแล้ว โดยน้องเขาเป็นเด็กนักเรียนที่มาหารายได้พิเศษ และต้องเข้าใจว่าเด็กเหล่านี้เป็นอนาคตของชาติในวันข้างหน้า และพฤติกรรมที่เขาทำผิดไปก็ต้องตักเตือนและแนะนำ รวมทั้งบริษัทที่จ้างก็ต้องมาแก้ไขปัญหาในการเพิ่มคน และหาคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อรับนักท่องเที่ยว จากการตรวจสอบไม่มีตำรวจท่องเที่ยวเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด วันนี้ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนแล้ว ส่วนที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นในเมืองไทย ก็ต้องแก้ที่เมืองไทย คนไทยต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี ส่วนเรื่องธุรกิจคล้องพวงมาลัยนั้นไม่ได้ผิดแต่อย่างใด แต่ได้ตักเตือนไปแล้วว่าควรมีการเพิ่มคนและอบรมคนให้ความรู้สึกของการทำหน้าที่บริการ
ชมคลิปที่นี่ ... “ส.มัคคุเทศก์ฯ” ชี้ คนไทยควรเห็นใจ “เด็กคล้องพวงมาลัย” หน้าบึ้งเพราะทัวร์จีนเยอะ แถมอากาศร้อน
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้