โดยจุดแรกเข้าตรวจค้นภายในบ้านหลังหนึ่งใน ตำบลควนลัง ภายในซอยบางแฟบ-ลพบุรีราเมศวร์ ซอย 10 ซึ่งเป็นบ้านเช่า พบแรงงานชาวเมียนมาร์ จำนวน 34 คนเป็นชาย 22 คน และหญิง 12 คน ซึ่งเป็นแรงงานที่หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมด ไม่มีเอกสารติดตัว อาศัยอยู่ในห้องพักทั้งชั้นบนและชั้นล่างในสภาพที่แออัดและทึบพร้อมกระเป๋าสัมภาระ เตรียมพร้อมเดินทางได้ตลอดเวลา แต่ไม่พบนายหน้าหรือผู้นำพา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเช่าอีก 1 หลังตั้งอยู่เลขที่ 36 หมู่ 3 ตำบลควนลัง ซึ่งเป็นบ้านห้องแถวชั้นเดียวและมีการล๊อคประตูรั้วหน้าบ้านหนาแน่น ต้องใช้วิธีพังประตูเข้าไป พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ อีก 32 คน เป็นชาย 29 คนและหญิง 3 คน ถูกแยกเป็น 3 กลุ่มทั้งอยู่ในห้องครัว ห้องนอน และห้องรับแขกหน้าบ้าน ซึ่งมีสภาพไม่ต่างกับบ้านเช่าหลังแรก
เบื้องต้น พบว่าบ้านหลังนี้ มีนาย MOUNG WIN ชาวเมียนมาร์เป็นผู้ทำสัญญาเช่าจาก นางอาอีฉ๊ะ หมาด ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน โดยเช่ามาตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม แต่ขณะเข้าจับกุมทั้งสองคนไม่อยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาสอบสวนอีกครั้ง โดยเฉพาะ MOUNG WIN ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นนายหน้าหรือตัวการใหญ่ที่นำพาแรงงานเถื่อนเหล่านี้เข้ามาพักไว้ที่บ้านเช่าทั้งสองหลัง
ขณะที่ จากการสอบสวน แรงงานต่างด้าวที่พอจะพูดไทยได้ เปิดเผยว่า เดินทางมาจากเมียนมาร์เข้ามาทาง จ.ระนอง และถูกนำมาพักไว้ที่บ้านเช่า เพื่อรอเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย แต่จะทยอยเดินทางเข้ามาพักที่บ้านเช่าทั้งสองหลังทีละกลุ่มและมีการกำชับให้อยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปไหนห้ามเสียงดัง และอดมื้อกินมื้อ
หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายค้าแรงงานเถื่อนกลุ่มนี้เป็นการด่วนเพราะเชื่อว่าเป็นกลุ่มใหญ่และมีผู้ร่วมขบวนการหลายคนทั้งชาวเมียนมาร์และคนไทย ส่วนแรงงานเถื่อนทั้งหมด ได้ประสานไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสะเดาต่อไป