วันนี้ (1 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถุงพลาสติกที่ใช้แล้วส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง เป็นขยะที่ถูกบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ 4 ตู้ ของบริษัท ลองลัค พลาสติก แอนด์ เมทัล จำกัด น้ำหนักรวม 58 ตัน ซึ่งเป็นรูปแบบขยะที่ 35 ประเทศในโลกประกาศไม่เอาไว้ แต่กลับมาพบอยู่ที่ประเทศไทย ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามระเบียบการนำเข้าพลาสติกต้องเป็นพลาสติกที่ผ่านการทำความสะอาดในลักษณะที่ไม่ต้องมาทำซ้ำในประเทศไทย ซึ่งสามารถนำเข้าสู่กระบวนการผลิตสินค้า หรือ รีไซเคิลได้ทันที แต่ที่ตรวจพบในวันนี้เป็นการนำเข้าที่ผิดเงื่อนไขข้อนี้ชัดเจน
โดยตัวแทนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ร่วมปฏิบัติการตรวจในวันนี้ ระบุว่า ได้ออกใบอนุญาตนำเข้าเศษพลาสติกให้กับบริษัทดังกล่าว แต่เมื่อเปิดตู้คอนเทนเนอร์ออกมา กลับพบว่า เป็นถุงพลาสติกใช้แล้ว จึงเข้าข่ายความผิดสำแดงข้อมูลเท็จ มีโทษปรับ 500,000 บาท และต้องส่งขยะพลาสติกเหล่านี้กลับประเทศต้นทาง
นอกจากนี้ตามข้อมูลของบริษัทดังกล่าวพบว่า ได้รับอนุญาตนำเข้าเศษพลาสติก โดยมีโควต้าถึง 20,000 ตัน โดยนำเข้ามาในราคากิโลกรัมละ 1 บาท และในภาพรวมมีโรงงานที่ทำธุรกิจนำเข้าเศษพลาสติกกว่า 100 แห่ง
ขณะที่นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชี้แจงว่า การตรวจสอบตู้สินค้าที่ขออนุญาตนำเข้าเศษพลาสติก ทำได้ยาก เพราะมีการขนเข้าไทยเดือนละกว่า 100 ตู้ เจ้าหน้าที่กรมโรงงานและกรมศุลกากร ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่กำลังไม่พอ จึงพบการลักลอบขนเศษพลาสติกไม่สะอาดปะปนเข้ามา
สำหรับการเอาผิดกับบริษัท ลองลัค พลาสติก แอนด์ เมทัล จำกัด ตำรวจเตรียมตรวจสอบรายชื่อผู้บริหารและเรียกมาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนการขยายผลในภาพรวม จะยังคงเดินหน้าตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าไม่ได้มีเพียงบริษัทเดียวที่ลักลอบนำเข้าขยะพลาสติกลักษณะนี้