เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.61) ดร.สว่างทิตย์ ศรีกิจสุวรรณ หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ หรือ มจพ. กล่าวว่า คณะทำงาน จำนวน 14 คน เดินทางไป พร้อมอุปกรณ์ช่วยยานขับเคลื่อนใต้น้ำชนิดใช้สายควบคุม (REMOTELY OPERATED UNDERWATER VEHICLE : ROV) และโดรน (Drone) ใช้การสำรวจทางอากาศ สำหรับยานสำรวจใต้น้ำ การทำงานจะเป็นการส่งสัญญาณโซน่า ที่จะใช้ส่งสัญญาณสำรวจเส้นทางว่าถ้ำมีขนาดความกว้างความลึกเท่าใด หรือมีสิ่งกีดขว้างหรือไม่ เพื่อที่จะช่วยสำรวจเส้นทางให้แก่นักประดาน้ำ ซึ่งยานสำรวจใต้น้ำตัวนี้สามารถ ส่งสัญญาณได้ระยะ 100 เมตร ทำงานได้ต่อเนื่อง 2 ถึง 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีกล้องที่ติดกับตัวเครื่องหากพบวัตถุอะไรในระยะ 10-20 ซม. ในสภาพน้ำที่ขุ่นก็จะสามารถเห็นได้ว่าวัตถุดังกล่าวคืออะไร ทั้งนี้ยานสำรวจใต้น้ำลำนี้จะใช้ในการสำรวจสิ่งแวดล้อมทางทะเลเท่านั้น นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในการประยุกต์ช่วยเหลือคน
ด้าน นายปาลวัฒน์ ประทุมวงษ์ พนักงานบริษัทเอกชนผู้เชี่ยวชาญการบังคับโดรน ระบุว่า สำหรับ โดรน ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทวิจัยแห่งหนึ่งจำนวน 2 ตัว ที่ทำหน้าที่ในการสำรวจทางอากาศ 1 ตัว และสามารถดำน้ำได้ 1 ตัว ซึ่งมีความสามารถในการตรวจจับความร้อนได้ สามารถแยกแยะอุณหภูมิระหว่างสิ่งมีชีวิตที่เป็นคน, สัตว์, ต้นไม้ และอื่น ๆ ได้ แต่จะจับกลุ่มความร้อนต่างที่เกิดขึ้นบนพื้นที่เท่านั้น ไม่สามารถเจาะลงไปตรวจความร้อนภายในถ้ำได้ แต่เนื่องจากในถ้ำมีน้ำอุณหภูมิก็จะต่างกัน ซึ่งอาจทำให้รู้ได้ว่าตรงไหนมีภาพเป็นอย่างไรก่อนนำมาทำแผนที่ ดีกว่าการนำคนบุกเข้าไปสำรวจอย่างเดียว เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้
ขอบคุณรูปภาพ : CASMETH