วันนี้ (20 ก.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ยืนยันกับผู้สื่อข่าวพีพีทีวีว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นผู้กล่าวหา พระราชรัตนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร และเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง คือ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ มีความผิดฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จึงออกหมายเรียกพระราชรัตนมุนีมารับทราบข้อกล่าวหา ที่กองปราบปราม เวลา 09.30 น. ในวันนี้ หากไม่มาตามนัด จะออกพิจารณาออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 66 ต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ พระราชรัตนมุนี ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป.ไปแล้ว ในคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 2 เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ตำรวจ ปปป.ตรวจสอบพบว่าวัดพิชยญติการามมีงบสนับสนุนโอนเข้าบัญชีวัด ก่อนปี 2555 จำนวน 2 บัญชี เป็นเงินมากกว่า 10 ล้านบาท กระทั่งล่าสุดมีข้อมูลเพิ่มว่าพระวิสุทธิธรรมพิลาส เจ้าอาวาสวัดต้นธงชัย อ.แม่พริก จ.ลำปาง เสนอของบจากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯประมาณ 2 ล้านบาท เมื่อได้รับเงิน ก็โอนเข้าบัญชีพระราชรัตนมุนี จำนวน 1 ล้านบาท
ขณะที่ เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 61) พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 3 กองปราบปรามจับกุมนายอุดร สีพลัง หรือสมศักดิ์ มณีศรี อายุ 65 ปี ชาว ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ที่หน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ หลังถูกกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงเจ้าอาวาสวัดกาเกาะ-เสกแอ ตำบลเทนมีย์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยอ้างจะนำงบประมาณมาพัฒนาวัด 700,000 บาท แต่ให้เจ้าอาวาสช่วยเงินค่าดำเนินการก่อน 65,000 บาท โดยก่อนจับกุมนายอุดร เจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้จับกุมนายประคอง หรือสมศักดิ์ ชิดสวน อายุ 52 ปี หัวหน้าแก๊ง และเพื่อนร่วมแก๊งได้แล้วรวม 4 คน