หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การผลิตสื่อไทยและต่างประเทศทุกรูปแบบที่ตรงตามความเป็นจริง ไม่กระทบจิตใจและสิทธิผู้ประสบภัยและผู้เกี่ยวข้อง ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ความมั่นคงของรัฐและเกียรติภูมิของประเทศไทยนั้น
นายบัณฑิต ทองดี นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเมืองไทย แต่ก่อนหน้านี้เคยมาการสร้างภาพยนตร์เหตุการณ์สึนามิ ชื่อ เรื่อง The Impossible แต่ตัวละครเป็นชาวต่างชาติ แต่เหตุการณ์ช่วยชีวิต 13 หมูป่า ตัวละครหลักๆส่วนใหญ่เป็นคนไทย หรือ ตัวละครหลักเป็นชาวต่างชาติ แต่ยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้วจะให้ใครมารับบท ขึ้นอยู่กับผู้สร้างหนังระดับฮอลลีวูดจะเลือกประเด็นไหน แต่สุดท้ายเราก็ต้องเฝ้าระวังไว้ก่อน
ส่วนที่มีหลายบริษัทจะเข้ามาทำหนังจะเกิดความยุ่งยากหรือไม่นั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการเข้าหาเด็กที่เป็นผู้ประสบภัย การเข้าไปยังสถานที่จริง และการเข้าไปสืบข้อมูลต่างๆจะค่อนข้างยุ่งยากหากมีหลายเจ้า แต่ในการสร้างภาพยนตร์ในเหตุการณ์นี้ทุกเจ้ามีสิทธิสร้างได้หมด เช่น มีการสร้างหนังสงครามเวียดนาม หนังสงครามโลก ที่มีบริษัทหนังหลายเจ้าสร้างขึ้นมา แต่การสร้างจะมีคณะกรรมการพิจารณาภาพยนต์ต่างประเทศที่มาถ่ายทำเมืองไทย หรือ ฟิล์มบอร์ด ตรวจสอบบทภาพยนต์อยู่แล้ว ถ้าบทไม่สร้างความเสื่อมเสีย สร้างแต่ด้านดี ก็สามารถอนุมัติให้สร้างได้ทุกเจ้า ขึ้นอยู่ในแต่ละเจ้าสร้างในมุมไหน แต่ถ้าบทมีลักษณะคล้ายกัน เราก็จะเตือนว่ามีคนสร้างเรื่องนี้มาแล้ว
เหตุการณ์ถ้ำหลวง จะสามารถสร้างหนังได้กี่เรื่อง ในความเห็นส่วนตัวคาดว่าต่างประเทศจะมาสร้างเหตุการณ์นี้ประมาณ 2เรื่อง และ ของไทยอาจสร้าง 1เรื่อง แต่ทางฮอลลีวูด ได้ออกตัวจะสร้างภาพยนต์ก่อน ทำให้ผู้กำกับไทย รู้สึกเกรงๆ ยังไม่มีใครกล้า รอดูท่าทีไปก่อน เพราะทุนสร้างสู้เขาไม่ได้ แต่ถ้าฮอลลีวูดสร้างแล้ว อีกสัก 4-5 ปีผู้กำกับไทยก็สร้างได้แต่ต้องหามุมที่แตกต่างจากฮอลลีวูด ซึ่งเราได้เปรียบเขาในเรื่องด้านวัฒนธรรม แต่เรื่องทุน เรื่องสมจริง จะสู้ต่างชาติไม่ได้
แต่ในมุมมองของผู้กำกับไทย เหตุการณ์นี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก ถ้าจะสร้างเป็นภาพยนตร์ เพราะมีตัวละครครบ ทั้งตัวละครหลัก หน่วยรบที่มีความสามารถพิเศษ และ มีตัวร้ายรวมอยู่ด้วย มีคนที่ทำให้ปฏิบัติการล่าช้า มีอุปสรรคจากฝนที่ตกหนัก ถ้าให้ตนทำภาพยนต์เรื่องนี้คงต้องหาทุนจากที่ต่างๆอย่างน้อยจำนวน 100 ล้านบาท แต่ฝั่งฮอลลีวูดเมื่อเขาประกาศสร้างภาพยนต์เขาจะมีทุนเข้ามาทันที ซึ่งทุนสร้างของเขาอย่างน้อยที่สุดประมาณ 500 ล้านบาท แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเขาน่าจะทุ่มทุนสร้าง 1,000 ล้านบาทขึ้นไป
นายบัณฑิต บอกด้วยว่า เหตุการณ์นี้จะออกมาในแนวดราม่า หรือ แอ้คชั้น เท่าที่ทราบจากสื่อคือ จอห์น เอ็ม ชู ผู้กำกับภาพยนต์เรื่อง จีไอโจ สนใจ ภาพยนตร์นี้ก็จะออกมาในแนวแอ็คชั่น แต่ถ้าอีกเจ้าหนึ่งจะสร้างออกมาในแนวดราม่า แต่อาจมีแอ็คชั่นเล็กน้อย ถึงอย่างไรเหตุการณ์นี้จะต้องมีภาพแอ็คชั่นอยู่แล้ว เพราะมีปฏิบัติการดำน้ำในถ้ำพาคนออกมา แต่ถ้าสร้างฉากให้ดูสมบูรณ์ ตนเชื่อว่า จอห์น เอ็ม ชู น่าจะทำได้ดีกว่า
สำหรับการพิจารณาจะให้สร้างหรือไม่นั้น ขั้นตอนแรก คือ คณะกรรมการฟิล์มบอร์ด จะพิจารณาด้านเนื้อหา แต่ขณะนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา เพื่อดูแลสิทธิของเด็กที่เป็นผู้ประสบภัย และสิทธิของผู้ที่ถูกอ้างอิง ที่ผู้กำกับจำนำชื่อเขาไปสร้างภาพยนต์ หรือ ดูแลเรื่องผลประโยชน์ให้เด็ก เพราะถ้าทำไปแล้วเผยแพร่ทั่วโลก เด็กจะได้ผลประโยชน์นี้อย่างไรบ้าง
เหตุการณ์นี้ถ้าสร้างเป็นภาพยนต์ไม่ได้มีใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เพราะเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์จริง เพียงแต่จะเอาชื่อใครไปทำหนัง ถ้าจะใช้ชื่อเขาจริงก็ต้องไปขออนุญาตเจ้าตัวก่อน ถ้าเขาบอกว่าฟรีก็ดำเนินการได้ แต่ถ้าบอกว่าต้องมีค่าลิขสิทธ์ ก็ต้องจ่ายให้เขาในค่าลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ สมัยที่ตนส้รางหนังเรื่องพุ่มพวงก็จ่ายลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ ให้ญาติของพุ่มพวง ส่วนเรื่องค่าลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ ของตัวละคร 13 หมูป่าถ้ำหลวง ทางคณะกรรมการพิเศษ ต้องเข้ามาดูในเรื่องนี้เพราะถ้าปล่อยให้มีการตกลงกันเองเด็กๆอาจเสียผลประโยชน์
“เด็กๆอาจคิดว่าเอาเรื่องราวของเขาไปทำหนังเผยแพร่ทั่วโลกก็รู้สึกดีใจ อาจให้ลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ไปฟรีๆ ดังนั้นคณะกรรมการพิเศษจึงต้องมาดูแลเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับเด็ก เพราะกรณีเหมืองถล่มที่ประเทศชิลี ผู้ส้รางภาพยนต์ได้เจรจากับผู้ประสบภัยโดยตรง แต่เมื่อหนังออกมากลายเป็นหนังที่โด่งดังไปทั่วโลก ผู้ประสบภัยบางคนรู้สึกน้อยใจที่ได้ค่าลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์น้อยเกินไป ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงนำกรณีดังกล่าวมาเป็นตัวอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเช่นเดียวกับที่ชิลี”
นายบัณฑิต บอกอีกว่า ในความคิดของตนอยากให้ฮอลลีวูดมาถ่ายทำหนังในประเทศไทย แต่ต้องขึ้นอยู่กับเขาด้วยว่าไปถ่ายทำที่ไหน ถ้าเริ่มต้นสร้างภาพยนต์เหตุการณ์ถ้ำหลวงขึ้นมาในวันนี้เราอาจจะได้ชมประมาณปลายปี2019