อุตุฯ เตือน ชาวบ้าน “ริมแม่น้ำโขง” ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

วันนี้ (30 ก.ค.61) สองปัจจัยหลัก ที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นต่อเนื่อง นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เพราะมีฝนตกหนักในสปป.ลาวและจีน โดยจีน ได้ปล่อยน้ำลงมาทุกวัน จึงส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นวันละเกือบ 1 เมตร หากเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่ามีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำโขงจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น   โดยเฉพาะประชาชนใน  4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จะต้องติดตามการแจ้งเตือนระดับน้ำตลอดเวลา หากมีประกาศให้อพยพจากหน่วยงานราชการก็ควรออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยทันที

ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงแต่ละภูมิภาค มี 3 จังหวัดที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากเหลืออีกไม่ถึง 1 เมตรน้ำจะล้นตลิ่ง ประกอบด้วย อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 20 เซนติเมตร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 65 เซนติเมตร อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 73  เซนติเมตร ส่วน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 3 เมตร อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 4 เมตร และ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 6 เมตรครึ่ง  ส่วนสภาพอากาศทั่วประเทศ พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักมากที่สุด ใน 5 จังหวัด คือ จังหวัดนครพนม สกลนคร อุบลราชธานี ขอนแก่น และ ร้อยเอ็ด รองลงมาคือภาคเหนือ และภาคใต้

ขณะเดียวกันข้อมูลของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร หรือ สสนก. เปิดเผยว่า นอกจากฝนที่ตกในพื้นที่ สาเหตุระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น เป็นเพราะปริมาณฝนที่ตกในสปป.ลาว โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 22-29กรกฎาคม ปริมาณฝนที่ตกลงที่แขวงสะหวันนะเขต รวมกันมากถึง 1,482 มิลลิเมตร เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยของปริมาณฝนที่ตกทั่วประเทศไทยตลอดทั้งปี โดยมวลน้ำก้อนนี้จะไห อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และจังหวัดหนองคาย และไหลต่อไปที่จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดอุบลราชธานี  ซึ่งทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับน้ำจากเขื่อนเซเปียบ-เซน้ำน้อย ที่ไหลออกจากเหตุเขื่อนแตก