วันนี้ (15 ต.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงหนึ่งของงานวิ่ง แชริตี้ ชลบุรี มาราธอน 2018 ทีมจัดงานต้องนำน้ำแข็งมาตั้งให้กับนักวิ่ง หลังเตรียมน้ำดื่มไว้ไม่เพียงพอ ขณะบางจุดปรากฏภาพมีน้ำแต่ไม่มีแก้วให้ ต้องใช้เจ้าหน้าที่รินน้ำจากเหยือก และให้นักวิ่งใช้มือมารองน้ำกรอกเข้าปาก ส่วนที่บางจุดนักวิ่งต้องนำหลอดมาแย่งกันดูดน้ำยังไม่รับรวมเส้นทางวิ่งบางช่วงมีฝาท่อเปิดทิ้งไว้
โดย นายชานนท์ สุวรรณโค หนึ่งในผู้เข้าร่วมวิ่งครังนี้ เปิดเผยว่า ตัวเองลงวิ่งมาราธอน ระยะ 21 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้น มีน้ำดื่มในกิโลเมตรที่ 3-10 ฝั่งเดียว ในขณะที่จำนวนคนวิ่งนับหมื่นทำให้น้ำดื่มไม่เพียงพอ และที่สำคัญตลอดระยะทางการวิ่งไม่เห็นจุดปฐมพยาบาล แม้กระทั่งรถพยาบาลที่จะต้องจอดไว้หากมีกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้นกับผู้เข้าร่วมวิ่ง จึงอยากให้การจัดวิ่งครั้งนี้เป็นบทเรียนของผู้จัด ที่จะต้องทำให้ได้มาตรฐาน
นายสาธิก ธนะทักษ์ หรือโค้ชเป้ง นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่เคยเป็นทีมงานของ ตูน บอดี้สแลม เมื่อครั้งวิ่งระดุมทุนในโครงการก้าวคนละก้าว ระบุว่า การจัดวิ่งมาราธอนโดยทั่วไป จะมีมาตรฐานการวางน้ำดื่มให้ผู้เข้าร่วมวิ่งทุก 2 กิโลเมตร ถ้าใครวิ่งเร็ว อาจจะ 4 กิโลเมตร ดื่มน้ำ1ครั้ง ส่วนระยะเวลาในการดื่มต่อครั้ง ต้องดื่มน้ำทุก 15-20 นาที ในลักษณะค่อย ๆ จิบ ไม่ดื่มในปริมาณมากเกินไป ถ้าผู้จัดงานไม่สามารถทำให้อยู่ในมาตรฐานเช่นนี้ได้ รุนแรงที่สุดอาจทำให้นักวิ่งเกิดอันตรายถึงชีวิต
โค้ชเป้ง กล่าวแนะนำผู้จัดงานว่า มีความจำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมน้ำดื่มให้เพียงพอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น และเชื่อว่าผู้จัดสามารถทำได้ เนื่องจากมีตัวเลขจำนวนคนเข้าร่วมที่ค่อนข้างชัดเจน รวมถึงมาตรฐานของการปฐมพยาบาลที่ต้องจัดเตรียมรถและจุดพยาบาลให้สามารถใช้บริการได้ทันเวลา