รัฐบาลสหรัฐฯมีกำหนดจะเริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรแบบเต็มรูปแบบกับอิหร่านอีกครั้งในวันนี้ ท่ามกลางการจับตาจากทั่วโลก โดยสหรัฐฯอ้างว่านี่จะเป็นการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยมีมา เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออกน้ำมัน รวมถึงภาคธนาคารของอิหร่าน
นอกจากอิหร่านที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงแล้ว ประเทศใดหรือกลุ่มธุรกิจใดก็ตามที่ฝ่าฝืนทำการค้ากับอิหร่าน ก็พลอยจะได้รับผลกระทบไปด้วย ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็เสี่ยงที่จะทะยานขึ้น หากปริมาณน้ำมันดิบในตลาดหายไปมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีประมาณ 8 ประเทศ ที่จะได้รับการผ่อนผันชั่วคราวให้สามารถซื้อขายน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ตลอดจนก๊าซธรรมชาติกับอิหร่านได้ต่อไป อาทิ อิตาลี อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี และจีน
ส่วนที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน เมื่อวานนี้ เป็นวันครบรอบ 39 ปี การบุกยึดสถานทูตสหรัฐฯ ในปี 1979 ซึ่งตามปกติ ทุกๆปีจะมีประชาชนหลายพันคนออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านสหรัฐฯ ปรากฏว่าบรรยากาศในปีนี้ คึกคักและดุเดือดกว่าทุกปี เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่มาตรการคว่ำบาตรจะมีผลบังคับใช้นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีรายการการชุมนุมที่คล้ายกันนี้ในอีกหลายเมืองทั่วประเทศด้วย
