กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ ย้ำเตือนพลเมืองอเมริกันซึ่งอาศัยหรือกำลังท่องเที่ยวอยู่ในจีน รวมถึงพลเมืองซึ่งถือสัญชาติทั้งอเมริกันและจีน ให้เพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตประจำวัน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ จะถูกขอตรวจค้นอย่างละเอียด หรือถูกควบคุมตัวโดยการใช้อำนาจแบบพลการ นอกจากนี้ ทางการจีนยังอาจสั่งห้ามพลเมืองอเมริกันบางคนเดินทางออกนอกประเทศด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงด้วย
ประกาศดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และแคนาดา จากกรณีการควบคุมตัว น.ส.เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารระดับสูงและทายาทของบริษัท หัวเว่ย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ปีที่แล้ว โดยขณะนี้นางเมิ่งอยู่ระหว่างรอขึ้นศาลในวันที่ 6 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาคำร้องขอส่งตัวไปดำเนินคดีในสหรัฐฯ ฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ระดับการเตือนภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อสถานการณ์ในจีนยังคงอยู่ที่ “ระดับ 2” ฝั่งรัฐบาลแคนาดา ล่าสุด ออกมาเปิดเผยว่า มีพลเรือนถูกควบคุมตัวในจีนแล้ว 13 คน นับตั้งแต่เกิดกรณีที่แคนาดาจับกุมตัวทายาทและผู้บริหารของบริษัทหัวเว่ย โดยในจำนวนนี้ มีอย่างน้อย 8 คนได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าถูกจับกุมด้วยข้อหาใด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แคนาดาเผยว่า ในภาพรวมแล้ว ตัวเลขชาวแคนาดาที่ถูกควบคุมตัวในจีน ยังถือว่าค่อนข้างเสถียร ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ