อีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุปาบึกเช่นกัน คือ พื้นที่ชายฝั่งทางตอนเหนือของมาเลเซีย ที่ยังเผชิญกับพายุลมแรงและคลื่นสูงในทะเลอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากพายุปาบึก คือ 6 รัฐ ทางตอนเหนือของมาเลเซีย ติดกับพรมแดนไทย ได้แก่ รัฐกลันตัน ปะลิส ปีนัง เกอดะฮ์/ และเปรัก (Perak) ซึ่งต้องเผชิญกับพายุฝนฟ้าคะนอง ความเร็วลม 50 กม./ชม. และคลื่นลมแรงในทะเล ความสูง 3.5 เมตร ต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทางการต้องประกาศเตือนภัยจากสภาพอากาศ และให้ประชาชนงดกิจกรรมเสี่ยง หรือห้ามเข้าใกล้พื้นที่ชายฝั่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : มาเลเซีย-เวียดนาม ได้รับผลกระทบจาก “พายุปาบึก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : บริษัทเดินเรือ "เกาะสมุย" หลายแห่ง งดบริการชั่วคราว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 3,000 – 5,000 ล้าน ค่าเสียหายจาก “ปาบึก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไปแล้ว!! “ปาบึก” ลงทะเลเมื่อ 09.00 น. เตือนยังไม่ปลอดภัยถึง 8 ม.ค.
เบื้องต้น สำนักอุตุนิยมวิทยามาเลเซีย คาดการณ์ว่าสภาพอากาศจะกลับมาอยู่ในระดับปกติภายในวันพรุ่งนี้ แต่อาจยังมีคลื่นลมในทะเล โดยชายฝั่งทางตะวันตก จะมีคลื่นสูง 1 เมตร และชายฝั่งทางตะวันออก มีคลื่นสูง 1.5 เมตร เช่นเดียวกับความเร็วลมที่จะลดลงเหลือไม่เกิน 30 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ทางการยังประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่ทางฝั่งตะวันตก เฝ้าระวังสภาพอากาศแปรปรวนต่อเนื่องไปอีกสักระยะ เนื่องจากขณะนี้พายุปาบึกได้อ่อนกำลัง และเคลื่อนลงทะเลอันดามันไปแล้ว
ขณะที่สำนักงานป้องกันพลเรือนของมาเลเซีย ยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่สแตนด์บาย รอให้ความช่วยเหลือประชาชน ในกรณีฉุกเฉิน
ส่วนเที่ยวบินโดยสารในประเทศของมาเลเซีย ทั้ง มาลินโดแอร์ มาเลเซียแอร์ไลน์ส และแอร์เอเชีย เบื้องต้น ไม่มีรายงานว่าได้รับผลกระทบจากพายุ แต่ทางสายการบินยังติดตามสถานการณ์พายุอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับบริการเรือเฟอร์รีไปยังเกาะลังกาวี ก็ยังเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ