เปิดใจ ชาวแม่สามแลบ ช่วยกะเหรี่ยงติดต่อญาติ เหตุสู้รบในเมียนมา
แม้ทางการไทย จะยืนยันว่า ไม่ได้ปิดกั้น แต่ไม่เคยมีนโยบายผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้กลับไปที่ฝั่งเมียนมา ยกเว้นคนที่สมัครใจ ขณะที่เครือข่ายลุ่มน้ำสาละวินภาคประชาชน เปิดข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ยืนยันว่า ชาวกะเหรี่ยงหลายพันคนยังรอการช่วยเหลือจากทางการไทย
แม้กองทัพเมียนมาจะประกาศข้อตกลงหยุดยิง 1 เดือนกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในประเทศ แต่ที่ชายแดน ไทย-เมียนมา มีรายงานว่า ชาวกะเหรี่ยงหลายพันคนยังกล้าที่จะกลับเข้าไปในเขตประเทศตัวเอง หลายพันคนกระจายตัวริมแม่น้ำสาละวิน ไม่กล้าที่จะกลับเข้าเขตเมียนมา ขณะเดียวกัน ก็ข้ามมาที่ฝั่งไทยไม่ได้
นี่เป็นภาพที่ทีมข่าวเราได้รับจาก นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ ผู้ประสานงานเครือข่ายลุ่มน้ำสาละวินภาคประชาชน เขาระบุว่าภาพชุดนี้ได้รับจากเครือข่ายกะเหรี่ยงที่เพิ่งถ่ายเมื่อเช้าที่ผ่านมา จากคลิปจะเห็นว่า ชาวกะเหรี่ยง ทั้งเด็ก และ ผู้หญิง ผูกเปล-นอนอยู่ในป่า ใกล้กับแม่น้ำสาละวิน เพราะไม่กล้ากลับเข้าไปในเขตเมียนมา และ ไม่กล้าข้ามมาที่ฝั่งไทย
เด็กเมียนมาเสียชีวิตแล้ว 43 ราย “เมียนมาไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กอีกต่อไป”
นายพงษ์พิพัฒน์ บอกว่า มีชาวกะเหรี่ยงประมาณ 7,000 คน กระจายตัว อาศัยยังอยู่ตามป่าและตามริมแม่น้ำสาละวิน พร้อมย้ำว่า ชาวกะเหรี่ยงจำนวนมาก ไม่มั่นใจ ว่า จะมีพื้นที่ปลอดภัยอยู่ในเขตรัฐกะเหรี่ยง
กลุ่มชาติพันธุ์ ยังคงตกเป็นเป้า ถูกทหารเมียนมาโจมตี
ขณะที่วันนี้มูลนิธิสถานะบุคคล ร่วมกับ เครือข่ายลุ่มน้ำสาละวิน พยายามจะส่งอาหาร ยา และของใช้จำเป็นไปให้ กะเหรี่ยงที่อพยพอยู่ยังไม่สามารถส่งไปได้ เพราะ ทางการไทยไม่อนุญาต ประเด็นนี้ เขามองว่า หากทางการไทยไม่อำนวยความสะดวก อาจส่งผลให้ มีชาวกะเหรี่ยงไหลทะลักเข้าที่ชายแดนไทยมากขึ้น
ส่วนการเดินทางมาที่อ.แม่สะเรียงของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ นอกจากจะมีมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้เจ้าหน้าที่แล้ว จะเดินทางมาที่แม่สามแลบ เพื่อรับฟังปัญหาและผลกระทบจากสถานากรณ์ความไม่สงบของเมียนมาด้วย นายพงษ์พิพัฒน์ เปิดใจว่า จะนำเรื่องการไม่สามารถส่งของใช้จำเป็นให้ชาวกะเหรี่ยง พูดคุยกับนายอนุทิน เพื่อขอให้ช่วยหามาตรการช่วยเหลือ
“อนุทิน”มอบนโยบายรับมือผลกระทบชายแดนไทย