เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปความยาวนาทีเศษ ของผู้โพสต์รายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยตัวตน ในคลิปมีชายสูงวัย อายุประมาณ 70-75 ปี ถอดแมสก์ขณะโดยสารอยู่บนประจำทาง กำลังมีปากเสียงกับผู้โดยสารหญิงอีกรายที่นั่งอยู่ข้างหน้า ซึ่งจับใจความได้ว่า ชายสูงวัยไม่ยอมใส่แมสก์ จึงถูกผู้โดยสารหญิงต่อว่า ว่าไม่ยอมให้ความร่วมมือ ชายสูงวัยจึงตอบโต้ด้วยว่าตำรวจไม่สามารถจับได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายข้อใดบังคับ อย่างไรก็จับไม่ได้
กทม.- หลายจว.เอาจริง จับไม่สวมหน้ากากอนามัย ในรถโดนหรือไม่ ปรับจริงเท่าไหร่ ชี้ตำรวจไม่มีสิทธิปรับ!!
โควิดวันนี้ยังพุ่ง 150 รายโคม่า ระลอกเมษาคร่า 54 ชีวิต ศบค.จ่อยกระดับสั่งปิด - ล็อก 6 จังหวัด
มาแล้ว ตัวอย่าง “จับจริงปรับจริง” ไม่ใส่หน้ากากอนามัยนอกเคหสถาน
อีกทั้ง ชายสูงวัยดังกล่าวยังท้าให้พนักงานถ่ายรูปเก็บไว้อีกด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนรถบริการสาธารณะ ปอ. สาย 515 ศาลายา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ต่อมาทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าของคลิป คือ "คุณตุ๊ก ประภาพร" เธอเล่าเพิ่มเติมว่า ชายสูงวัยดังกล่าวจะเดินขึ้นมาใช้บริการรถ ปอ. สาย 515 แต่พนักงานกระเป๋าฯ บอกว่า ไม่สามารถรถรับชายสูงวัยขึ้นรถได้ เพราะว่าไม่ยอมสวมแมสก์ตามมาตรการควบคุมโรคจากภาครัฐ ชายสูงวัยจึงควักแมสก์จากกระเป๋ามาใส่ ก่อนเดินขึ้นมาบนรถ แต่จู่ๆ ก็ถอดแมสก์ออก แล้วเกิดการโต้เถียงกับผู้โดยสารหญิงอีกรายตามที่ปรากฏในคลิป
นอกจากนี้ เจ้าของคลิปยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่รถ ปอ.กำลังเคลื่อนอยู่บนท้องถนน ช่วงหน้าโรงพยาบาลเด็ก ทำให้พนักงานคนขับไม่สามารถจอดข้างทางแล้วเชิญชายสูงวัยลงไปได้ จนพนักงานกระเป๋าถ่ายรูปเก็บหลักฐานเอาไว้ ท้ายที่สุดเมื่อลงป้ายหนึ่งบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พนักงานพยายามไปแจ้งตำรวจในละแวกนั้น แต่ชายสูงวัยคนดังกล่าวก็ไม่สน เดินหัวเราะแล้วลงจากรถไปทันที
ด้านพนักงานขับรถ ปอ.คันดังกล่าว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า "ผมรับลุงคนนี้ขึ้นมาจาก สน.ตลิ่งชัน ขณะโดยสารบนรถ ผมก็เตือนตลอดเพราะมีพฤติกรรมเอาจมูกโผล่นอกแมสก์ตลอดเวลา พอออกจากป้ายตรงข้ามโรงพยาบาลเด็ก กำลังมุ่งหน้าเข้าท่าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก็มีพฤติกรรมถอดแมสก์ออกเเล้วเย้ยหยันผู้โดยสารบนรถ ตอนเรียกตำรวจมา ทำท่าทางเหมือนคนเป็นใบ้ เพื่อจะหลบเลี่ยงไม่ให้ตำรวจสนใจ พอผมกดดันเรื่องถอดแมสก์บนรถให้ตำรวจรับทราบ ลุงท่านนี้ก็เถียงกับตำรวจเเล้วเดินหนีไป เเค่หน้าที่ปฏิบัติงานก็เสี่ยงมากพอเเล้ว อย่ามาเพิ่มความเสี่ยงกับพนักงานเเละคนอื่นๆ ที่โดยสารบนรถเลยครับ"
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
