กทม.- หลายจว.เอาจริง จับไม่สวมหน้ากากอนามัย ในรถโดนหรือไม่ ปรับจริงเท่าไหร่ ชี้ตำรวจไม่มีสิทธิปรับ!!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เริ่มแล้ว 26เม.ย.กทม.แจงชัดจับปรับไม่สวมหน้ากากอนามัย ในรถต้องใส่หรือไม่ หลายจังหวัดเริ่มแล้ว จับ ปรับจริง ชี้ตำรวจไม่มีอะนาจปรับ

จากกรณีที่กรุงเทพมหานคร ออกประกาศกรุงเทพมหานคร บังคับใช้ประชาชน ต้องสวมใส่หน้ากาอนามัยไว้ตลอดเมื่อออกนอกที่พัก หรือเคหสถาน หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท และห้ามใช้โต้แย้ง เช่นเดียวกับหลายจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ออกประกาศใช้กฎหมายบังคับ ต้องสวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกนอกเคหสถาน โดยที่จ.สุราษฎร์ธานี ศาลแขวงสุราษฎร์ฯ พิพากษาปรับแล้ว ปรับ4,000 บาท ขณะที่มีการส่งต่อในโซเชียลมีเดียวว่า ที่่อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ปรับจริง 500 บาท 

มาแล้ว ตัวอย่าง “จับจริงปรับจริง” ไม่ใส่หน้ากากอนามัยนอกเคหสถาน

หนุ่มเคยป่วยวัณโรค ติดโควิด-19 หาเตียงไม่ได้

ผู้ว่าฯ กทม. สั่งเพิ่ม จนท.รับสายด่วน 1669 เสริมรถรับ-ส่งผู้ป่วยโควิดทุกเขต

  • ประกาศกทม.

 

 

 

เฟซบ๊ก ที่ทำการปกครองอำเภอบางปะหัน จังหวัด พระนครศรีอยุธยา โพสต์ว่า วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564 เวลา 13.30 น. ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลบางนางร้า ได้นำผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับ ในข้อหา ไม่สวมหน้ากากอนามัย อันเป็นความผิดตามคำสั่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1779/2563 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2563 ประกอบมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เหตุเกิด ที่ตลาดสดบางปะหัน ตำบลบางนางร้า อำเภอบางปะหัน

ต่อมาพล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงว่า กรณีนี้ ได้รับรายงานว่า เป็นเรื่องที่ คณะกรรมการอำเภอบางปะหัน มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้านไปตรวจสอบหลังพบว่า พ่อค้าแม่ค้าขายกะทิ​ในตลาดสดแห่งหนึ่งไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งขัดกับคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงนำตัวมาส่งพนักงานสอบสวนให้เปรียบเทียบปรับ

ผบช.ภ.1 ยอมรับว่า พนักงานสอบสวน เข้าใจไปว่า มีอำนาจตามกฎหมายควบคุมโรคให้สามารถเปรียบเทียบปรับได้เอง จึงสั่งปรับเป็นเงิน 500 บาท ตนได้แย้งไปว่า กรณีนี้พนักงานสอบสวน ต้องปรับในอัตราขั้นต่ำเป็นเงิน 6,000 บาท เพราะตามกฎหมายควบคุมโรคติดต่อและตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด อัตราโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท พนักงานสอบสวนไม่สามารถปรับเป็นเงิน 500 บาทได้ ดังนั้นในกรณีนี้ ผู้ถูกกล่าวหาขอให้พนักงานสอบสวน ทำสำนวนส่งฟ้องศาลแขวง เพื่อให้ศาลฯ ใช้ดุลยพินิจ​ในการสั่งปรับแทน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหา เชื่อว่าน่าจะปรับได้ต่ำกว่าเงิน 6,000 บาท

ทั้งนี้มี หากมีการจับกุม ตร.ไม่สามารถออกใบสั่งปรับได้ ต้องคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน ทำสำนวนส่งฟ้องศาล ตามความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรค โทษปรับสูงสุด 20,000 บาท ศาลจะมีดุลพินิจปรับ

ขณะที่พล.ต.อ.ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ย้ำว่าสำหรับในกทม. หากไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ยืนยัน กทม.จำเป็นต้องเคร่งครัดมาตรการนี้ ไม่มีเจตนาปรับ แต่อยากให้ทุกคนมีจิตสำนึก หลังที่ผ่านมาพบมาตรการส่วนบุคคลย่อหย่อนจนนำมาสู่การระบาด  หากไม่อยากถูกปรับ ก็ให้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันตัวเองแล้ว ยังป้องกันการแพร่เชื้อบุคคลรอบข้างด้วย 

ด้านนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า เจตนาในการประกาศคือการป้องกันการติดต่อของโรคโควิด-19 จากบุคคลไปสู่บุคคล การอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคารหรือที่ต่างๆ จะต้องสวมหน้ากาก

สำหรับในที่สาธารณะต้องใส่ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่ เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อ

"สำหรับกรณีที่อยู่ในรถ เมื่อมีบุคคลอื่นร่วมอยู่ในรถด้วยจึงต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และกรณีนั่งคนเดียวจึงอนุโลมได้ว่าไม่ต้องใส่หน้ากาก"

กรณีของผู้ประกาศข่าว จัดรายการในสตูดิโอ เนื่องจากสตูดิโอถือว่าเป็นสถานที่นอกเคหะสถานและสถานที่พำนัก ตามประกาศดังกล่าว อีกทั้งเป็นสถานที่มีผู้ปฏิบัติงานรวมกันมากกว่า 1 คน มีลักษณะเป็นห้องปิด ซึ่งจะมีผู้เข้ามาใช้งานต่อเนื่อง การทำงานของผู้ประกาศขณะอ่านข่าวหรือจัดรายการจึงอยูในเกณฑ์ที่ต้องสวมหน้ากากตามที่กำหนดในประกาศ อีกทั้งผู้ประกาศข่าวเป็นบุคคลสาธารณะที่จะมีภาพปรากฏต่อสาธารณชนทั่วไปจึงควรเป็นภาพที่สวมใส่หน้ากากเพื่อแบบอย่างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงและต้องการร่วมมือจากประชาชนในการดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในขณะนี้ด้วย

กรณีเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ  ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้สวมหน้ากาก เพราะเด็กยังไม่รู้วิธีที่จะถอดหน้ากากออกและอาจขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้ จึงเข้าข่ายอนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากาก แต่ให้หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในสถานที่แออัด หรือพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ในส่วนนครบาลกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องดูเจตนารมณ์ของประกาศ กรณีขับขี่รถส่วนบุคคลเพียงคนเดียว ไม่มีคนอื่นโดยสารมาด้วย ไม่ต้องใส่แมสก์ได้ เพราะเจตนารมณ์คือป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น กำชับตำรวจนครบาลให้ใช้ดุลพินิจรอบคอบอย่าสร้างความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งในส่วนนครบาลยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องการจับกุม 

ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รองผบ.ตร.) เปิดเผย  การจับกุมดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักเกณฑ์การปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายตามที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ  แต่ทุกอย่างต้องดูที่เจตนาด้วย หากพบว่าไม่มีเจตนากระทำผิดหรือฝ่าฝืนประกาศ ตำรวจก็พยายามแนะนำตักเตือน ทุกอย่างต้องดูที่เจตนาตำรวจไม่ได้มุ่งเอาเป็นเอาตาย หรือ จับกุมดำเนินคดีอย่างเดียว

TOP สุขภาพ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ