คนงาน 7-8 คน ช่วยกันลากอวนที่เต็มไปด้วยปลากะพงขาวน้ำหนักรวมกว่า 5 ตัน กวาดต้อนมารวมกันก่อนใช้ตะกร้าตักขึ้นชั่งน้ำหนัก ปลาที่ขึ้นจากบ่อเลี้ยงใน ต.คลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ บ่อนี้ มีขนาดใหญ่กว่า “ปลาไซส์” ที่ร้านค้านิยมนำไปประกอบอาหารตัวใหญ่กว่า แต่ราคาถูก ไม่คุ้มต้นทุนการเลี้ยง เกษตรกรต้องตัดใจขาย เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนประกอบกิจการต่อ
“ตามสัญญา” จับมือ “บิณฑ์ - เอกพันธ์” ลงแรงพร้อมเยียวยาชาวบ้านที่เดือดร้อนจากโควิด–19
โอเอซีสซีเวิลล์ สู้ โควิด-19 ประกาศขายสวนทำอาหารตามสั่ง หารายได้ดูแลปลาโลมา
ข้อมูลจากนายนิธิวัฒน์ วงศ์วิวัฒน์ ประมงอำเภอบางบ่อ บอกว่า ใน ต.นิยมยาตรา มีพื้นที่เลี้ยงปลากะพงขาวประมาณ 1,350 ไร่ จำนวนบ่อ 397 บ่อ มีปลาตกค้างกว่า 3 พันตัน กระทบผู้เลี้ยงปลากะพงกว่า 200 ชีวิต ในวิสาหกิจชุมชน 2 แห่ง ในจำนวนนี้ ขึ้นทะเบียนกับกรมประมงเพียง 101 คนเท่านั้น ทำให้การวางมาตรการช่วยเหลือทำได้จำกัด เพราะตามระเบียบราชการมีช่องทางช่วยเฉพาะผู้ที่ขึ้นทะเบียนในระบบ
จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ จะตั้งงบช่วยเหลือแต่จะได้ในปีงบประมาณ 2565 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ช่วยพักชำระหนี้ให้ผู้เลี้ยงปลา และให้เงินกู้ปลอดดอกเบี้ยกับผู้จำหน่ายอาหารปลา โดยตั้งข้อแม้ว่าต้องลดราคาอาหารปลาลงกระสอบละ 20 บาทส่วนสภาเกษตรกรจังหวัดสมุทรปราการ เตรียมประสานงานนำปลากะพงที่นี่ ไปแลกกับข้าวหอมมะลิใน จ.บุรีรัมย์ แต่มาตรการทั้งหมดนี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือกลุ่มชาวประมง ตราบใดที่ยังไม่มีตลาดรองรับปลาที่ตกค้างบ่อ จึงอยากให้หน่วยงานที่มีอำนาจในการสั่งการระดับจังหวัดหรือประเทศเข้ามาช่วยเหลือ
แม้จะตัดใจขายขาดทุนเพื่อระบายปลากะพงออกจากบ่อแล้ว แต่ก็ยังแทบไม่มีคนซื้อ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลากะพงขาวคุณภาพคลองนิยมยาตรา จึงอยากให้มีหน่วยงานเป็นเจ้าภาพหาตลาดระบายปลา เพราะหากปล่อยให้ตกค้างอยู่ในบ่อ ก็ไม่รู้ว่าเกษตรกรจะสามารถแบกรับต้นทุนได้ถึงเมื่อไหร่