หลังจากญาติโยมชาวโซเชียลได้ทราบแล้วว่า พส. ไม่ได้ย่อมาจากแค่ "เพื่อนสาว" หรือ "พี่สาว" เท่านั้น แต่นั่นหมายถึง "พระสงฆ์" ปรากฏการณ์บนโลกออนไลน์เมื่อ 2 คืนที่ผ่านพ้น ทำให้ทุกคนเข้าถึงธรรมะแบบขายขำบ้าง เรียนรู้ธรรมตามสภาพบ้าง จะเอาอะไรมาต้านก็ไม่มีสำหรับ "พระมหา" นักเทศน์ 2 พส. แห่ง วสท. (วัดสร้อยทอง)
เพจ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ คนแห่เข้าชมไลฟ์ยามค่ำคืน แบบไม่ได้นัดหมายวันละ 2 แสน แบบจึ้งๆ
คนแห่ดู "พระมหาไพรวัลย์-พระมหาสมปอง"
ชาวบ้านเผย “พระมหาไพรวัลย์” ช่วยเหลือคนตกยาก
พร้อมเพจแบรนด์ดังทั่วฟ้าเมืองไทยเข้ามาสาธุ ไหว้สากันนับไม่ถ้วน แกงกันจนเกิดดรามาบ้าง อาจด้วยความสนุกสนานเลยเถิดก็ว่ากันไป
แม้ว่า 2 พส. จะโด่งดังและเป็นที่คุ้นชื่อ คุ้นหูกันมานานหลายปีแล้ว แต่กระนั้น พีพีทีวี นิวมีเดีย ขอนมัสการอนุญาต เปิดโปรไฟล์ของทั้ง "พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต" กับ "พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ" พระนักเทศน์คู่พี่น้อง แห่งสำนักวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ มาให้ชาวเน็ตได้ทราบกันอีกสักหนจะเป็นไรไป เพราะประวัติทั้งคู่ก็ไม่ธรรมดา กว่าจะมาเป็นพระนักเทศน์ที่เข้าถึงผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ใช่เรื่องง่าย ความพากเพียร บากบั่น การศึกษา ก่อนจะมาเผยแผ่ธรรมะได้ ก็ใช่ว่าจะทำได้สำหรับทุก พส. งานนี้ตีให้ตายก็ไม่โป๊ะ..
"พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต" ชาติกำเนิดเป็นคนจังหวัดชัยภูมิ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2521 ปัจจุบัน อายุ 42 ปี พรรษา 22 ได้ฉายา ตาลปุตฺโต พระมหาสมปอง เคยอธิบายที่มาเมื่อครั้งเดินสายไปบรรยายธรรมะหลายที่ว่า ตาลปุตฺโต แปลว่า บุตรของนางตาล เพราะมารดาชื่อนางตาล นามสกุลเดิม นครไธสง เป็นบุตรคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้อง 7 คน
'พระมหาสมปอง' ติดโควิด เปิดไทม์ไลน์พบเชื้อ ฉีดซิโนแวค ครบ 2 เข็มแล้ว
การศึกษา เริ่มเรียนที่โรงเรียนบ้านป่าว่าน อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี 2541 และศึกษาพระปริยัติธรรมเรื่อยมาจนสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค นอกจากนี้ พระมหาสมปอง ยังหมั่นศึกษาเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) เอกปรัชญา (เกียรตินิยมอันดับ 1) จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต่อด้วยปริญญาโท สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต (สส.ม.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทใบที่ 2 หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พธ.ม.) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แบบนี้จะเอาอะไรมาต้าน..ไม่มี
เรียกได้ว่า พระมหาสมปอง คือ พระวิทยากรนักเทศน์มืออาชีพ ตัวจริง เสียงจริง เดินสายเผยแผ่ธรรมะในแบบฉบับของตัวเอง ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร คอยสอดแทรกมุกตลกๆ ที่เข้าถึงเหล่านักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน กลุ่มวัยรุ่น หรือแม้แต่บุคคลทั่วไป ทำให้การเข้าถึงพระธรรมไม่ใช่เรื่องที่ยากหรือน่าเบื่ออีกต่อไป จนเป็นที่ยอมรับจากสังคมวงกว้าง แม้บางครั้งจะมีเสียงติฉินว่าเนื้อหาไม่เหมาะบ้าง หรือทอดแทรกการเมืองเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้ พระมหาสมปอง ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนยุทธ ยังคงเดินหน้าเผยแผ่ธรรมะในแบบที่เป็นตัวเองมากที่สุด
นอกจากนี้ พระมหาสมปอง ยังมีผลงานด้านสื่อเป็นผู้ร่วมดำเนินรายการทางสถานีโทรทัศน์ การทำช่องยูทูบส่วนตัวที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2 แสนคน "ธรรมะเดลิเวอรี่" เป็นอีกหนึ่งรายการที่ทำให้มีชื่อเสียงติดลมบนพระนักเทศน์เมืองไทย อีกทั้งยังมีผลงานการเขียนหนังสือธรรมะมากกว่า 20 เล่ม และมีเพจเฟซบุ๊กไว้สำหรับสร้างคอนเทนต์บรรยายธรรมะ fanpage พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต
"พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ" หรือชื่อเดิม "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" ชาติกำเนิดเป็นคนจังหวัดจันทบุรี ปัจจุบันอายุย่าง 30 ปี ตามประวัติ เมื่อเรียนจบชั้น ป.6 จึงไปบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย กระทั่งเรียนนักธรรมบาลีจนจบเปรียญธรรม 7 ประโยคเมื่ออายุเพียง 18 ปี จากนั้นได้ย้ายมาศึกษาที่วัดสร้อยทอง ในปี 2555 ศึกษาจนสอบเปรียญธรรมได้ 9 ประโยค ถือเป็นสามเณรรูปแรกของจังหวัดสุโขทัยที่สอบเปรียญธรรมได้ 9 ประโยค (เทียบเท่าปริญญาตรี) หาผู้ใดเปรียบได้ยากยิ่ง เมื่อครบอายุ 20 ปี ที่จะอุปสมบทได้ จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณอุปสมบทเป็น "นาคหลวง" และจำพรรษาที่วัดสร้อยทอง เรื่อยมาจนปัจจุบัน..จึ้งมาก!
เมื่อสอบเปรียญธรรมได้ 9 ประโยคแล้ว พระมหาไพรวัลย์ ยังศึกษาต่อจนจบปริญญาโท คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาวิชาสันติศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อีกด้วย
ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา พระมหาไพรวัลย์ เริ่มมีชื่อเสียง จากการเป็นพระนักเทศน์ นักคิด นักเขียน นักอ่าน นักวิจารณ์ และมักมีสถานีโทรทัศน์ช่องดิจิทัลช่องหนึ่งไปสัมภาษณ์ออกหน้าจอ เมื่อมีเหตุการณ์หรือประเด็นในเรื่องความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ ความลี้ลับ หรือแม้แต่ปมดรามากระแสสังคมทุกแง่ จนต่อยอดให้ พระมหาไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
พระมหาไพรวัลย์ มักวิจารณ์สังคมแบบตรงไปตรงมา ยืนหยัดที่จะกล้าวิจารณ์โดยยึดหลักการ ความมีเหตุผล ส่วนการเผยแผ่ธรรมะ เน้นเข้าใจง่าย สนุกสนาน ยิงคำสอนแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เข้าถึงกลุ่มเยาวรุ่นจนกลายเป็นขวัญใจของเด็กรุ่นหนุ่มสาว จนถึงวัยทำงาน แม้มุกที่สอดแทรกในธรรมะจะเป็นเรื่องที่ซีเรียส แต่ญาติโยมบางคนก็บอกขายขำ อีกทั้งยังเป็นพระที่ทันยุค ทันเหตุการณ์ เข้าใจโลก จึงซื้อใจวัยรุ่นไปแบบง่ายๆ เช่น การประยุกต์นำศัพท์โซเชียลของกลุ่ม LGBT หรือแม้แต่ศัพท์ของเมืองทิพย์ (เมืองที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้) ของ พระมหาเทวีเจ้า - แม่หญิงลี เน็ตไอดอลแห่งหัวเมืองปัตตานี มาใช้พูดสนทนากับญาติโยม เป็นต้น และปัจจุบันเพจเฟซบุ๊กของพระมหาไพรวัลย์ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ มียอดกดติดตามมากกว่า 1.1 ล้าน แล้ว
แม้แต่ในช่วงวิกฤตโควิด 19 กำลังแพร่ระบาดหนักในเมืองกรุง พระมหาไพรวัลย์ ก็ไม่ได้หยุดนิ่ง ระดมสรรพกำลังเท่าที่มีร่วมกับวัด คณะบุคคล ญาติโยม บริจาคสิ่งของ ออกช่วยเหลือชาวบ้าน ชุมชนต่างๆ อยู่ไม่ขาดสาย ในยามปกติชาวบ้านช่วยเหลือวัด ในยามบากลำบาก พระก็ออกช่วยชาวบ้าน ถือเป็นการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน
เมื่อศิษย์สำนักเดียวกัน เวียนวนมาพบกัน ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก แม้สบงจีวรจะต่างสี ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะอย่างที่ พส. กล่าว เรารักกันแบบพี่น้อง คนนึงกาสะลอง..ส่วนอีกคนซ้องปีบ สภาพนะ จะเอาอะไรมาต้าน..!