ตามที่มีข่าวว่าบริษัทแห่งหนึ่งได้มีประกาศเกี่ยวกับการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19 หากพบว่าพนักงานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ และ ประกาศของบริษัท จนเป็นเหตุให้พนักงานติดเชื้อ และทำให้พนักงานอื่นต้องหยุดงานกักตัว บริษัทจะลงโทษทางวินัย โดยการตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร งดการพิจารณาปรับเงินเดือน 1 ปี และงดการพิจารณาจ่ายโบนัส 1 ปี
นางโสภา เกียรตินิรชา รองอธิบดีและโฆษกกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือ กสร. กล่าวว่า การปรับเงินเดือนประจำปีและการจ่ายโบนัส
กสร.ยันลูกจ้างลาป่วยไม่ถึง 3 วันไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
ลูกจ้างโวย นายจ้างหักเงินเยียวยา ม.33 จากเงินเดือน ด้านกสร. ชี้ นายจ้างละเมิดสิทธิ มีโทษทั้งจำ-ปรับ
เป็นสวัสดิการและสิทธิประโยชน์นอกเหนือจากที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนด ลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับมากน้อยเพียงใด จึงขึ้นกับเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่แต่ละสถานประกอบกิจการเป็นผู้กำหนด ก็ถือเป็นสภาพการจ้างที่ผูกพันให้ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติต่อกันตามข้อตกลงนั้น
ดังนั้น หากนายจ้างนำเงื่อนไขการกระทำผิดของลูกจ้างมาเป็นหลักเกณฑ์ในการงดการปรับเงินเดือน หรืองดจ่ายโบนัส ซึ่งไม่เคยมีการกำหนดหลักเกณฑ์เช่นนี้มาก่อน ย่อมเป็นการสร้างหลักเกณฑ์เงื่อนไขใหม่ที่ไม่เป็นธรรม การลงโทษดังกล่าว ย่อมเป็นการไม่ชอบและไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่เป็นคุณต่อลูกจ้าง หากนายจ้างนำหลักเกณฑ์นี้มาใช้ ลูกจ้างมีสิทธิโต้แย้งคัดค้านนายจ้างได้ และหากนายจ้างไม่ปรับหรือ จ่ายสิทธิประโยชน์ตามหลักเกณฑ์เดิมที่กำหนดไว้ ลูกจ้างสามารถใช้สิทธิกับทางศาลต่อไปได้
โฆษก กสร. บอกด้วยว่า หากนายจ้างได้กำหนดระเบียบหรือคำสั่งที่สร้างภาระแก่ลูกจ้างเกินสมควรหรือทำให้นายจ้างได้เปรียบลูกจ้างเกินสมควร ศาลแรงงานมีอำนาจสั่งให้ระเบียบหรือคำสั่งนั้นมีผลบังคับใช้ได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณี ตามมาตรา 14/1 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541