โพสต์ของหญิงสาวรายนี้มีคำถามถึงความปลอดภัยในชีวิตว่าอยู่ตรงไหน พร้อมเล่าว่า ตั้งแต่เกิดมา 28 ปี ต้องพบเจอกับเหตุการณ์โรงโม่ระเบิดภูเขา มาตลอด โดยช่วงวัยเด็กที่ไม่ได้คิดอะไรนั้น ก็รู้สึกสนุกที่ต้องวิ่งหลบก้อนหิน หลังมีการประกาศเตือนจากเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อเธอโตขึ้นจึงรู้ว่าไม่สนุก และขณะนี้รู้สึกว่าครอบครัวต้องอยู่อย่างหวาดระแวง
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ เจ้าของโพสต์ คือ น.ส.สุวรินทร์ แก้วเทวี เล่าว่า บ้านของเธออยู่ในพื้นที่หมู่บ้านคุ้งพัฒนา (ซับชะอม) ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
ผลตรวจแบงก์ 1 พันบาท จากตู้เอทีเอ็ม พบเป็นของจริง ธปท.ยันชำระหนี้ได้
ฉีดวัคซีนเพียงพอแล้วหรือ? หลังชงเปิด กทม.-4 จว. รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ในขณะที่โรงโม่หิน อยู่ที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุร แต่จุดที่ระเบิดเป็นภูเขาหลังบ้าน ห่างกันแค่ประมาณ 500-700 เมตร
โดยในอดีตการระเบิดหินจะมีการแจ้งเตือนก่อน ทั้งเสียงหวอหรือเสียงเจ้าหน้าที่ ทำให้ชาวบ้านรับทราบและเตรียมตัว แต่ช่วง 1 ปีหลังไม่มีการแจ้งเตือนแต่อย่างใด และเมื่อก่อนการระเบิดหินจะทำเป็นช่วงเวลา ประมาณ15.30-17.00 น. แต่เดี๋ยวนี้การระเบิดทำไม่เป็นเวลา รวมทั้งแรงระเบิดเหมือนจะมากขึ้นด้วย จึงกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับคนในบ้าน
อย่างเมื่อวาน ( 15ก.ย.)ขณะที่คนในครอบครัวอยู่ในบ้าน ส่วนหลานชายกำลังล้างรถสิบล้ออยู่หลังบ้าน ก็เกือบโดนหินตกใส่ โชคดีวิ่งหลบใต้รถสิบล้อทัน เธอยังพาไปดูก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตกอยู่ใกล้บ้านด้วย
น.ส.สุวรินทร์ ยังพาไปดูบ้านของเพื่อนบ้านหลายหลัง ที่มีรอยร้าวจากการโดนหินตกใส่ และแรงระเบิด พร้อมเล่าว่า ในอดีต เคยมีเหตุการณ์ที่ก้อนหินปลิวตกใส่บ้านคน แต่เจ้าของสัมปทานโรงโม่หิน ก็จะเข้ามาดูแลโดยเปลี่ยนกระเบื้องและให้เงินทำขวัญ แต่ก็มีบางรายที่ไม่ขอรับ เพราะอยากให้ปรับปรุงเรื่องการดูแลความปลอดภัยมากกว่า ไม่ได้ต้องการเงินเยียวยาเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้คนในหมู่บ้านยังได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองด้วย
น.ส.สุวรินทร์ ยังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมา เธอและคนเฒ่าคนแก่ ไม่เคยได้ทำเอกสารสอบถามความคิดเห็นว่าจะมีการระเบิดหิน ในพื้นที่จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีการระเบิดภูเขาในพื้นที่หมู่บ้านและที่ผ่านมาก็มีการร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ