ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (5 ต.ค.2564 ) ผู้ปกครองนักเรียนกว่า 30 รวมตัวกันที่โรงเรียนบ้านบึง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ถือป้ายขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนโดยจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนบ้านบึงทำโครงการจัดซื้อเครื่องดนตรีไทยใหม่ โดยผู้อำนวยการโรงเรียนกำหนดว่าให้ซื้อจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รวมมูลค่าเครื่องดนตรีที่ซื้อ 358,000 บาท
ผู้นำเข้า “ATK เลอปู๋” เชื่อประเด็นการเมือง ปมสสจ.นครศรีฯ สั่ง รพ.ห้ามใช้
บุคคล 3 กลุ่ม ที่ไม่เหมาะกับการรับประทานอาหาร "เจ"
จากนั้นเมื่อมีการนำเครื่องดนตรีมาส่งที่โรงเรียน คุณครูสอนดนตรีไทย ตรวจสอบเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น พบว่า มีบางส่วนเป็น เครื่องดนตรีมือสอง ที่นำไปซ่อมแซมแล้วนำมาย้อมแมวขายในราคามือหนึ่ง
เมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่า การจัดซื้อเป็นการล็อคสเป็ก บริษัทขาย โดยผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นคนเลือกบริษัทจัดซื้อเองไม่ได้เปิดให้มีการประกวดราคาตามขั้นตอน
นายสมบูรณ์ สุขสุแพทย์ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านบึง ซึ่งเป็นนักดนตรีไทย และเป็นพ่อของครูสอนดนตรีไทย เมื่อทราบเรื่องจึงรวมกลุ่มกับผู้ปกครอง เพื่อเรียกร้องขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมระบุว่า เครื่องดนตรีไทยจำนวนหลายชิ้นไม่ตรงสเป็กตามที่สั่ง เช่น ฆ้องมอญวงใหญ่ ฆ้องมอญวงเล็ก กลองคู่ กลองแขก กลอง 2 หน้า เปิงมางคอก ตะโพนมอญ ตะโพนไทย และ จะเข้ ทั้งหมดนี้ คล้ายถูกย้อมแมวขายของมือสอง แต่คิดราคามือหนึ่ง
นายสมบูรณ์ ยกตัวอย่างการถูกย้อมแมวว่า ฆ้องมอญวงใหญ่ ฆ้องมอญวงเล็ก มีการนำมาลอกสีเก่าและปิดทองใหม่ลงไป ให้ดูเหมือนเป็นของใหม่ หรือ อย่างเครื่องดนตรีที่ใช้หนังเป็นส่วนประกอบ เช่น เปิงมางคอก ตะโพน กลอง ใช้หนังมือสองทั้งหมด รวมถึง จะเข้ พบว่า มีการโป้สีใหม่ทับสีเก่าที่เสื่อมโทรม ในฐานะที่เป็นนักดนตรีไทย นายสมบูรณ์ บอกว่า แค่มองดูเครื่องดนตรีที่จัดซื้อมาก็รู้ว่าราคาไม่ถึง 3 แสนบาท บางชิ้น ราคาถูกกล่าวครึ่งหนึ่งของที่ผู้อำนวยการโรงเรียนแจกแจง ตั้งข้อสังเกตว่า การล็อคสเปกเป็นเพราะมีส่วนได้เสียด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ นายสมบูรณ์ ยังแฉวีรกรรมของผู้อำนวยการคนปัจจุบัน เพิ่มเติม โดยบอกว่า เข้ามาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบึงได้ ประมาณ 2 ปี ก่อนหน้านั้น เคยถูกขับไล่จากโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพราะ ไปทุจริตในลักษณะคล้ายกัน
ส่วนวีรกรรมที่โรงเรียนบ้านบึง นอกจากเรื่องเครื่องดนตรีไทย ยังพบว่า มีข้อครหา เรื่อง การบริหารงานหลายอย่าง เช่น เคยมีคนบริจาคตัวหนอนปูพื้นให้โรงเรียน แต่ไม่พบว่ามีการนำมาปูพื้นหรือปรับปรุงโรงเรียน หรือ กรณีที่มีการจัดสรรเงินจากส่วนต่างๆให้นักเรียน พบว่า เงินไม่ถูกบริหารจัดการลงมา ทั้งหมดนี้ นายสมบูรณ์ อ้างว่า เป็นสาเหตุที่ผู้ปกครองหลายสิบคนทนไม่ไหว ต้องออกมาขับไล่ ผู้อำนวยการโรงเรียน
ทีมข่าวพีพีทีวี ประสานขอพบผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกโจมตี เธอไม่สะดวกใจให้บันทึกภาพ บอกเพียงว่า เธอมีหน้าที่แค่เซ็นเอกสารคำสั่งซื้อพัสดุของโรงเรียน และ ตอนนี้ยังไม่ได้เซ็นรับมอบเครื่องดนตรีไทยทั้งหมด หลังพบว่ามีเครื่องดนตรีไทยถูกย้อมแมวขาย ทางบริษัทก็นำกลับคืนไปแล้วบางส่วน ยืนยันว่าการจัดซื้อเป็นไปตามระเบียบที่ตรวจสอบได้
แต่เมื่อถามถึงกรณีที่ครูสอนดนตรีไทย บอกว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นคนล็อคสเป็ก บริษัทจัดซื้อ ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ตอบคำถาม พร้อมย้ำว่า ไม่ขอชี้แจงใดใด ระหว่างพูดคุยด้วย เธอร้องไห้ เกือบตลอดเวลา พร้อมย้ำว่า หากผู้ปกครองอยากให้เธอลาออกเธอก็พร้อมลาออก เพราะ ปัจจุบันอายุ 57 ปีแล้ว เหลืออีกแค่ 3 ปีก็เกษียณอายุราชการแล้ว
นอกจากร้องไห้ยืนยันความบริสุทธิ์ เธอยังตัดพ้อว่า ตัวเองทำความดีมาตลอดแต่โดนรังแกจากผู้ที่เสียผลประโยชน์