เฮลิปคอปเตอร์ของทัพเรือภาคที่ 1 และเรือ 9 ลำ ฉีดสารขจัดคราบน้ำมัน เพื่อทำให้น้ำมันดิบจมลงไปในทะเล และ ใช้ทุ่นลอยน้ำสกัดไม่ให้น้ำมันดิบลอยขึ้นฝั่ง หลังน้ำมันดิบรั่วเป็นครั้งที่ 2 โดยจุดที่ปฎิบัติการอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 5 กิโลเมตร ใกล้กับจุดที่น้ำมันดิบรั่วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังเตรียมเคลื่อนย้ายท่ออ่อนใต้ทะเล ซึ่งเมื่อยกท่อขึ้น ทำให้น้ำมันค้างท่อรั่วไหลออกมา
พบน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลทระยอง ซ้ำจุดเดิมอีก 5,000 ลิตร
น้ำมันดิบรั่วทำประมงเสียหาย จับหมึกได้น้อย
ขณะที่บรรยากาศที่บริเวณ คลองหัวรถ ซึ่งเป็นจุดที่น้ำมันพัดเข้าฝั่งเมื่อครั้งที่แล้ว เจ้าหน้าที่ของบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) SPRC บริษัทต้นเรือง ได้กางเต๊นท์ และนำรถยก พร้อมอุปกรณ์เตรียมซับน้ำมันและ กำลังทหารเดินหน้าเก็บกวาดชายหาด ซึ่งทางการคาดการณ์ว่าคราบน้ำมันดิบที่รั่วรอบที่ 2นี้ จะพัดขึ้นฝั่ง คืนนี้ เวลาประมาณ 24.00-02.00 น.
ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมตำหนิบริษัทต้นเหตุว่า ควรจะมีความระมัดระวังในการเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบให้รอบคอบมากกว่านี้ เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้ว การขอโทษไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น และเชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้ ส่วนการปลดธงแดง และการลงเล่นน้ำทะเล ต้องขอประเมินสถานการณ์คราบน้ำมันในทะเลอีกครั้ง
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่ได้เชื่อบริษัทที่อ้างว่ามีปริมาณน้ำมันรั่ว 5,000 ลิตร แต่ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการใดที่จะตรวจสอบ น้ำมันที่รั่วมีปริมาณเท่าไหร่ จึงต้องใช้ตัวเลขที่ออกมาจากบริษัทก่อน
ส่วนการควบคุม ได้สั่งให้ติดตามสถานการณ์คลื่นลม ทิศทางกระแสน้ำ เพื่อใช้บูมคอยดักทิศทางของกระแสน้ำ พร้อมเน้นย้ำขอให้ตรวจสอบลักษณะท่อ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก รวมถึงเร่งเยียวยาตามมาตรการอย่างเคร่งครัดด้วย
ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยถึงการขออนุญาตใช้สาร Dispersant สลายคราบน้ำมัน เพิ่มเติมอีก 5,000 ลิตร หรือ 1:1 จากน้ำมันที่รั่วออกมา ว่ายังไม่อนุญาต เนื่องจากไม่มีความเหมาะสม เพราะสารชนิดนี้หากใช้ในปริมาณมาก จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน และของเดิมยังมีปริมาณคงเหลือใช้อยู่ ขณะเดียวกันมองว่าทางบริษัทไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการที่ถูกต้อง
ล่าสุด กรมเจ้าท่า เข้าแจ้งความบริษัทฯ เพิ่มอีก 4 ข้อหา คือ กรณีก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมซ้ำเป็นครั้งที่ 2, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ระงับการใช้งานทุ่นเทียบเรือ จนกว่าจะซ่อมแซมแก้ไขให้แล้วเสร็จ, ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานที่ใช้ในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตามกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
- เรื่องที่คุณอาจพลาด
