หลังจากมีการปลดล็อคพืชกระท่อมออกจากยาเสพติด ทำให้กระแสพืชกระท่อมมาแรง เนื่องจากความนิยมนำไปรับประทานมีจำนวนมาก จนเกิดกระแสการเพาะพันธุ์ต้นกล้ากระท่อมส่งขาย เพื่อหวังสร้างรายได้เพราะมองว่าเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้
นายอูเซ็น สูลสละ อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีนายทุน เข้ามาติดต่อหาต้นกระท่อมในพื้นที่ โดยเสนอราคาให้ต้นละไม่ต่ำกว่า 30 บาท ต้องการเป็นหลักแสนต้น ตนจึงศึกษาและลงมือเพาะปลูกต้นกล้ากระท่อม หวังสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวในช่วงวิกฤติโควิด-19
ทำความรู้จักพืชกระท่อม อดีตยาเสพติดที่เพิ่งถูกปลดล็อกออกจากบัญชี
ประกาศแล้ว! พ.ร.บ.ยาเสพติดฉบับใหม่ ปลด "ใบกระท่อม" จากยาเสพติด
ที่ผ่านมาใช้แรงงาน คนในพื้นที่ ที่ว่างจากการทำงานมาช่วยกันเพาะพันธุ์ต้นกล้าใบกระท่อม เสียค่าใช้จ่ายค่าแรงงานวันละเกือบ 3,000บาท ใช้เงินลงทุนในการปลูกกระท่อมไปแล้วกว่า 300,000บาท ตอนนี้มีต้นกล้าทั้งหมดประมาณ 130,000 ต้น เป็นชนิดก้านแดงหางกั้ง แต่นายทุนที่บอกว่าจะเหมาเป็นแสนๆ ต้นหายเงียบ
นายอูเซ็น เปิดเผยว่า ตอนนี้ขายได้แต่รายย่อยที่มาซื้อ 10-50 ต้นเท่านั้น หากมีชาวบ้านหรือเกษตรกรท่านใดต้องการที่จะปลูกพืชกระท่อม มีที่ดินแต่ไม่มีต้นกล้า ทางตนเองยินดีมอบต้นกล้าให้ไปปลูกก่อน โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินค่าต้นกล้า โดยจะเก็บค่าต้นกล้าคืนก็ต่อเมื่อต้นกระท่อมที่ปลูกมีผลผลิตออกขายได้ และนำมาขายคืนให้กับตนเองโดยจะรับซื้อตามราคาท้องตลาด