ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ร้องเรียนในกลุ่มห้องนั่งเล่นพ่อแม่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ว่า ลูกชายวัย 2 ขวบ 6 เดือน มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป หลังจากไปเข้าไปในสถานรับเลี้ยงเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ในรั้ววิทยาลัยแห่งหนึ่ง เขตอำเภอเมืองนครพนม
โดยเด็กมีอาการหวาดผวา ไม่อยากไปโรงเรียน แถมพอกลับบ้านยังหิวข้าว หิวน้ำ เหมือนไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน ทำให้ผู้ปกครองเกิดความสงสัยและพยายามสอบถามข้อเท็จจริง จนสุดท้ายก็พบว่าลูกชายถูกครูทำร้ายร่างกาย แถมยังไม่ให้กินข้าวกินน้ำด้วย
สอบถาม ผู้เป็นแม่ เล่าว่าเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เธอพาลูกชายไปเข้าเรียนศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่ง ซึ่งแยกเด็กออกเป็น 3 ห้อง คือ ห้องเด็กเล็ก ห้องเด็กกลาง และห้องเด็กโต โดยลูกอยู่ห้องเด็กเล็กมีเด็ก ซึ่งมีเพื่อนประมาณ 9-10 คน
พอเข้าเรียนวันแรก วันที่ 9 มีนาคม ลูกชายก็ยังเป็นปกติ แต่หลังผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ก็เริ่มสังเกตว่าลูกชายร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กเล็กที่ต้องปรับตัว
แต่พอสังเกตพฤติกรรมของลูก ก็พบว่ามีความผิดปกติหลายอย่าง เช่น เวลากลับจากโรงเรียนจะหิวข้าว และหิวน้ำมาก พอถามลูกก็บอกว่า อยู่ที่โรงเรียนไม่ได้กิน จึงไปแอบดูลูกก่อนเลิกเรียน ก็พบว่าถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวลำพัง โดยไม่มีครูดูแล
นอกจากพฤติกรรมที่เหมือนไม่ได้กินอะไรทั้งวัน จนหิวโหยแล้ว ลูกชายยังมีอาการหวาดกลัว บางครั้งตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วร้องไห้ บอกไม่อยากไปโรงเรียน จนกระทั่ง เธอสังเกตพบรอยช้ำและรอยเล็บ บริเวณใบหูด้านซ้าย จำนวน 3 จุด พอถามลูกชายบอกว่า หกล้มถูกผนังโรงเรียน แต่เธอไม่เชื่อจึงไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด และก็พบว่าลูกชายถูกครูทำร้าย โดยการดึงหูแล้วเหวี่ยงเข้าฝาผนัง
ราคาทองวันนี้ (25 มี.ค.) เปิดตลาดปรับตัวขึ้นทีเดียว 200 บาท
ด้านผู้บริหารศูนย์เด็กเล็ก ให้ข้อมูลว่าหลังรับแจ้งจากผู้ปกครอง ได้เรียกครูประจำห้องทั้ง 3 คนมาสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทั้งหมดไม่มีใครยอมรับ จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าครูผู้หญิงห้องเด็กเล็กทำร้ายร่างกายเด็กตามที่ถูกร้องเรียนจริงๆ ครูคนดังกล่าวจึงจำนนต่อหลักฐาน และรับสารภาพว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบ จึงขอรับผิดด้วยการลาออกไปตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา