เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 มีผู้เสียหายถูกแม่หมออ้างตัว ลงนะหน้าทอง เพื่อให้ค้าขายร่ำรวย หลอกให้ซื้อสินค้าจนสูญเงินเกือบล้าน เข้าร้องเรียนกับ นายจิรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังรับร้องเรียน หมอปลาพาผู้เสียหายบุกบ้านแม่หมอทิชา แต่ปรากฎว่าไม่เจอตัว จึงพาผู้เสียหายไปแจ้งความ แต่เมื่อผู้เสียหายไปแจ้งความกลับถูกตำรวจพูดจาไม่ดี ทำให้หมอปลาบุกไปโวยวาย
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลัง หมอปลา พา นางพัชรีรัตน์ อภิเดชเจริญภัคดีอายุ 53 ปี ผู้เสียหายที่ถูกหญิงอ้างตัวเป็นแม่หมอลงนะหน้าทองให้ค้าขายร่ำรวย มาแจ้งความที่ สถานีตำรวจนครบาลโคกคราม ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่บ้านของแม่หมอทิชา แต่ปรากฎว่า พนักงานสอบสวนพูดจาไม่ดี ทำให้ นางพัชรีรัตน์ ลงมาที่หน้าสถานีตำรวจและบอกกับหมอปลา จากนั้นหมอปลาบุกขึ้นไปโวยวายในสถานีตำรวจ ก่อนจะมีปากเสียงกับ พ.ต.ท.ศรีสันต์ เฟื่องสังข์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจโคกครามโดย ทั้ง 2 ฝ่าย โต้เถียงกัน นานกว่า 10 นาที ก่อนที่ตำรวจก็รับแจ้งความตามขั้น
สภาพอากาศวันนี้! ไทยตอนบนอากาศร้อน สูงสุด 38 องศาฯ 35 จังหวัดยังเจอฝน
นางพัชรีรัตน์ เล่าว่า ตนเองเชื่อว่า แม่หมอทิชา หลอกให้ลงนะหน้าทองและซื้อของ และสุดท้ายหลอกให้โอนเงินให้เกือบหนึ่งล้านบาท จึงติดต่อหมอปลาเพื่อขอความช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้เธอรู้จักกับแม่หมอทิชาผ่านเฟซบุ๊ก อาจารย์คนนี้มีความสามารถในการดูดวง เสริมดวง โดยจะเลือกบทสวดมนต์ให้เราสวด อ้างว่า เลือกจากการดูดวงเฉพาะบุคคล นางพัชรีรัตน์บอกว่า เธออ่านแล้วรู้สึกสนใจ จึงติดต่อขอดูดวงผ่านทางโทรศัพท์ ในราคา 999 บาท ตอนแรกรู้สึกว่าดูดวงแม่นมาก ต่อมาแม่หมอแนะนะใช้ค้าขาย อ้างว่า ช่วงนี้ดวงค้าขายกำลังมา เธอจึงตัดสินใจเริ่มธุรกิจขายของออนไลน์
ต่อมา แม่หมอทิชาหลอกล่อให้สั่งผลิตภัณฑ์ที่ตัวแม่หมอเป็นผู้ผลิต และจำหน่าย คือ สบู่น้องร้อยล้าน เมตตามหานิยม เสริมดวงการงาน ครีมกันแดด มหาเสน่ห์ เสริมโชคลาภ บารมี ซึ่งเธอก็ไว้ใจเชื่อ จึงโอนเงินซื้อ ล็อตแรก จ่ายเงินไป 4 แสนบาท ล็อตที่สอง 3 แสนบาท ได้ของครบถ้วน แต่ขายของไม่ออกเลย
“ปลาวาฬ อิสสระ” ควบเบนท์ลี่ย์ เสียหลักชนรั้วเหล็กกั้นไฟไหม้วอด
แนะนำให้เดินสายทำบุญเพื่อเสริมดวง และทำพิธีบวงสรวง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2 แสนบาท พิธีที่ทำมีลักษณะเหมือนพิธีชิงเปรต โดยแม่หมอทิชา อ้างว่า การแย่งกินของบวงสรวง จะช่วยส่งบุญให้ถึงเทวดา แต่สุดท้ายของในสต๊อกก็ยังอยู่เต็มบ้าน ขายไม่ได้
อนึ่งก่อนหน้าจะมาโรงพัก หมอปลาได้พานางพัชรีรัตน์ไปหาแม่หมอทิชา ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ สบู่น้อยร้อยล้าน ที่บ้านพัก ย่านสุคนธสวัสดิ์ 1 ตอนแรกตั้งใจจะไปเจรจาเพื่อขอให้คืนเงิน แต่ แม่หมอคนดังกล่าวไม่ยอมออกมาเจอ แต่ใช้วิธีให้ทนายความส่วนตัวโทรศัพท์มาเจรจา บอกว่า “ไม่สะดวกที่จะออกมาเจรจาโดยที่ไม่มีทนายความของตัวเองอยู่ด้วย”
ต่อมา สื่อมวลชน ลงพื้นที่ไปที่บ้านของอาจารย์ทิชาอีกครั้ง โดยขออนุญาตจาก นิติบุคคลหมู่บ้านแล้ว ซึ่งนิติบุคคล อนุญาตให้สื่อมวลชนบางส่วนเข้าไปในพื้นที่ส่วนกลางได้ แต่ก็พบว่า ประตูบ้านปิดเงียบ ไม่พบใครอยู่ในบ้าน เมื่อสอบถามจาก รปภ. บอกว่า อาจารย์ทิชาขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว
สรรพสามิต เตือนลงคลิป “สอนหมักเหล้า” แพร่โซเชียล ผิด พ.ร.บ.เครื่องดื่มฯ
สำหรับกรณีนี้ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทีมงานของหมอปลา อธิบายว่า การจะไปเอาผิดเรื่องการซื้อขายสินค้าแล้วขายไม่ออก น่าจะทำไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำได้ คือ พฤติการณ์ดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารและยา ฐานโฆษณาเกินจริงและอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งจากการตรวจสอบเลขที่ใบจดแจ้ง พบว่า หมดอายุไปตั้งแต่มกราคม 2565 นอกจากนี้เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดตรง และ ความผิดฐานฉ้อโกงด้วย