เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และน.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น เดินทางมายังศาลจังหวัดมุกดาหาร ตามนัดของศาลให้มารับฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีครอบครองไม้หวงห้าม (ไม้มะค่าแต้) โดยไม่ได้รับอนุญาต และเมื่อเวลา 10.00 น. ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้นายไชย์พล วิภา จำเลยในคดี ทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับไว้ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น
“ลุงพล” อ่วม เสี่ยงโดนข้อหาหลอกลวงปชช. หลังศาลตะเคียน ไม่ใช่ไม้ตะเคียน
รู้จัก “ลุงพล” อดีตคนดังสื่อปั้น ผ่านกว่า 1 ปี สู่หมายจับผู้ต้องหา คดี “น้องชมพู่”
ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย และมีไม้ท่อนหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งให้จำเลยในคดีดังกล่าว ให้จำคุกจำเลย 4 เดือน ปรับ 6,666.66 บาท ริบไม้ของกลาง โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี
สำหรับคดีนี้เกิดชึ้นจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร เข้าตรวจสอบท่อนไม้ที่ระบุว่าเป็นตะเคียนทอง ซึ่งตั้งเป็นศาลเจ้าแม่โสรภี ที่บ้านของนายไชย์พล บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร แต่ผลตรวจสอบพบว่าเป็น มะค่าแต้ ไม่ใช่ตะเคียนทอง
ทั้งนี้ มะค่าแต้ เป็นไม้หวงห้าม หากครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ตามมาตรา 69 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์สั่งฟ้อง นายไชย์พล ฐานความผิด ทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับไว้ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้
วิวาห์วุ่น! สินสอดหายปริศนา 1 ล้านบาท ช่างภาพงง ตกเป็นผู้ต้องสงสัย
พบแล้ว ร่างนทท.อิหร่าน พลัดตกล่องแก่งพังงา หลังเรือยางชนหินพลิกคว่ำ
โดยก่อนหน้านี้ นายไชย์พล ระบุว่า ไม้ท่อนนี้ไหลตามน้ำจากบนภูเขามาติดที่คลองข้างบ้าน สังเกตเห็นเนื้อไม้เป็นสีเหลือง เข้าใจว่าเป็นไม้ตะเคียนจึงไม่กล้านำไปใช้ ส่วนที่มีการกราบไหว้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล มีชาวบ้านมากราบไหว้ขอพรแล้วประสบความสำเร็จ บ้างก็มารำแก้บน บ้างก็เอารถแห่มาเปิดถวาย ตั้งเป็นศาลเจ้าแม่ตะเคียนโสรภี