ตามที่ พระอาคม อายุ 68 ปี พรรษา 13 ซึ่งเป็นพระลูกวัด ประจำวัดป่าเกษหงส์วนาราม ตำบลตำแย อำเภอพยุห์ จังหวัดศรีสะเกษ ขณะที่อาพาธมาหลายปี และมีโยมที่มาปฎิบัติธรรมที่วัดได้มาทักว่า อาจจะโดนคุณไสย หรือผีเข้า ไปรักษาที่โรงพยาบาลไหนก็ไม่หายสักที ก่อนที่จะเสนอให้ไปหาหมอผี จากนั้นพระอาคม ก็เดินทางไปตามที่ได้รับคำแนะนำ ทำพิธีได้มีผู้ที่ถ่ายคลิปลงโพสต์ในโลกออนไลน์
พระเชื่อถูกทำของใส่ หาหมอผีทำพิธีขับไล่
“หมอผี” อ้างไล่ผีทำพิธีกรรมคล้ายล่วงละเมิดทางเพศ
ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจาณ์กันไปต่าง ๆ นานา ว่าเป็นพระ ผีเข้าสิงได้ด้วยหรือ และเป็นพระทำไมไปเชื่อโยม ผิดวินัยสงฆ์อื่น ๆ อีกมากมาย กลายเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาภายใน 2 วัน
วันนี้ (30 มี.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พระอาคม ยอมตัดกรรมตนเอง ด้วยการมาขอสึกจากการเป็นพระสงฆ์ เพื่อที่จะได้เดินทางไปรับการรักษาตัวตนได้อย่างอิสระเสรี จึงได้มีการประสานเจ้าคณะตำบลเมืองใต้ และเจ้าหน้าที่โดยมี นายเอกสิทธิ์ ดวงแก้ว นักวิชาการศาสนา ชำนาญการพิเศษ สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาพร้อม ปลัดอำเภอพยุห์ ฝ่ายป้องกัน เพื่อมาร่วมเป็นพยาน และจะได้รายงานผู้บังคับบัญชา
โดยเบื้องต้น การที่พระอาคม ไปเข้าร่วมพิธีไล่ผีนั้น ยังไม่มีความผิดถึงขนาดต้องลาสิกขา แต่ด้วยความที่พระอาคม ต้องการหนีความวุ่นวาย จึงแจ้งขอลาสิกขาเอง ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปรอทำข่าวเก็บภาพการสึก พอพระอาคมทราบเรื่อง จึงโทรศัพท์ แจ้งเจ้าหน้าที่ ขอไปสึกแบบเงียบ ๆ โดยขอไม่ให้มีการทำภาพข่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยอมปฏิบัติตาม โดยจะได้ประสานวัดที่ไม่มีผู้สื่อข่าวไปรอ เพื่อร่วมทำการสึกพระอาคม ดังกล่าวในวันนี้
โดย นายเอกสิทธิ์ ดวงแก้ว นักวิชาการศาสนา ชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ ได้โทรศัพท์พูดคุยกันโยมที่ขับรถยนต์พาพระอาคม ที่มาสึกแจ้งผ่านเครื่องโทรศัพท์ ว่า หลวงพ่อตั้งใจที่จะไปสึกที่วัดหลวงสุมังคลาราม แต่พอดีมีนักข่าวโทรมาหลายสาย หลวงพ่อจึงตัดสินใจปิดเครื่อง และได้คุยกับคนขับรถว่าหลวงพ่อขอยุติเรื่องราวต่าง ๆ หลวงพ่อไม่สบายใจ เพราะหลวงพ่ออยากลาสิกขาเพื่อไปรักษาตัว ถ้าย้ายไปอยู่วัดเดิม ท่านไม่สามารถที่จะไปเดินบิณฑบาตได้ เพราะอาพาธเจ็บขาอยู่ หลวงพ่อจึงได้ให้คนขับรถพามาลาสิกขา แต่วันนี้มีนักข่าวโทรมาหาหลวงพ่อเยอะ หลายสายมาก ท่านจึงไม่ค่อยมั่นใจ เพราะตอนแรกจะมาลาสิกขาที่วัดหลวง ตอนนี้หลวงพ่อจึงให้คนขับรถพาไปลาสิขาที่วัดอื่นแทน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะไปลาสิกขาที่วัดไหน ซึ่งตนก็ได้แจ้งกับทางหลวงพ่อแล้วว่าลาสิกขาที่วัดไหนก็ได้ เพราะทางนี้ได้ประสานเจ้าคณะตำบลไว้แล้วท่ และานเจ้าคณะตำบลก็รออยู่
ขณะเดียวกัน พระอาคม ได้พูดผ่านโทรศัพท์ตอบกับนักวิชาการศาสนาฯ มาว่า เนื่องจากหลวงพ่อไม่สบายใจ ไม่อยากจะให้เป็นข่าว เพราะมีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ถามกันเยอะ โดยความผิดของหลวงพ่อไม่ถึงขั้นต้องลาสิกขาอะไรหรอก แต่หลวงพ่อได้ตัดสินใจแล้วว่า จะสึกออกมารักษาตัว หลวงพ่อเองก็มีโรคประจำตัวด้วย เพราะอยู่ไปก็ออกไปบิณฑบาตไม่ได้ เพราะขาหลวงพ่อเจ็บเดินไปบิณฑบาตเองไม่ได้ ขาไม่ค่อยมีเรี่ยวมีแรง หลวงพ่อมีความรู้สึกว่ามันวุ่นวายใจ ตามหลักหลวงพ่อเป็นคนชอบความเงียบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่อยากให้มีอะไรมาวุ่นวาย หลวงพ่อขอลาสิกขาแบบเงียบ ๆ ไม่ต้องมีนักข่าว เพราะหลวงพ่อบอกแล้วว่าจะสึกหลวงพ่อก็จะต้องทำ หลวงพ่อขอลาสิกขาแบบเงียบ ๆ ก็พอ