น.ส.รำไพ พาตะวัน นำคลิปมาร้องเรียนกับทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ หลังถูกดำเนินคดีปล่อยกู้นอกระบบ ซึ่งเธอยืนยันว่าไม่เคยทำเช่นนั้น พร้อมเล่าว่า เป็นสายลับตำรวจในจังหวัดอำนาจเจริญมาเกือบ 20 ปี แต่เมื่อไม่มีผลงานจึงถูกยัดข้อหาโดยรองผู้กำกับนายหนึ่ง ซึ่งได้ให้เหตุผลว่า เพราะต้องการเลื่อนขั้น และโทษในคดีที่ให้เธอรับสารภาพก็ไม่ร้ายแรงอะไร ทนายไพศาล จึงพา น.ส.รำไพ เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อขอความเป็นธรรม
คุมตัวผู้ต้องสงสัยโยงการหายตัวไปของสายตำรวจ
พร้อมขอให้คุ้มครองความปลอดภัย และให้ย้ายตำรวจทุกนายที่เกี่ยวข้องกับคดี น.ส.รำไพ บอกว่าเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 21 พ.ค.64 มีดาบตำรวจโทรศัพท์ให้ช่วยมาเป็นผู้ต้องหาคดีกู้ยืมเงิน โดยบังคับให้เธอเซ็นเอกสารเกี่ยวกับคดี อ้างว่าทำตามคำสั่งนาย
บิ๊กตู่ลั่นรัฐบาลหนุนซอฟต์แวร์ เอ้ย ! ซอฟต์เพาเวอร์นานแล้ว
จากนั้นเดือนถัดมาก็ให้มาเซ็นเอกสารเพิ่ม พร้อมให้เงิน 25,000 บาท สำหรับให้จ่ายค่าประกันตัว แต่เนื่องจากเธอเคยมีคดีเสพและขายยาบ้าติดตัว เมื่อรวมกับคดีล่าสุดทำให้มีโอกาสสูงที่ต้องติดคุกหลายปีทันที ทำให้ในวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งศาลนัดสอบคำให้การ เธอจึงปฏิเสธข้อหา และประกันตัวออกมา แต่ตำรวจก็มาเกลี้ยกล่อมให้สารภาพและบอกว่าหากเธอติดคุกจะส่งเงินให้ครอบครัวเธอเดือนละ 15,000 บาท และตอนที่ยังไม่ติดจะจ่ายเดือนละ 5,000 บาท แต่เธอปฏิเสธ ทำให้ถูกข่มขู่จะทำร้าย เธอจึงพูดกับรองผู้กำกับนายนั้นไปว่าหากเธอให้เงิน 30,000 แล้วให้ติดคุกแทนจะเอาหรือไม่ตามคลิป นอกจากนี้เธอยังมีคลิปที่อีกหลายคลิปที่ยืนยันได้ว่าถูกยัดข้อหาจริง
ด้านทนายไพศาลบอกว่า บันทึกจับกุม น.ส.รำไพ มีพิรุธหลายอย่าง เช่นที่ระบุว่านำกำลังตำรวจถึง 14 นายไปจับผู้หญิงคนเดียวที่ตลาดแห่งหนึ่ง แต่เจ้าของตลาดยืนยันว่าไม่เคยมีเหตุการณ์จับกุมตามที่ตำรวจอ้างและวงจรปิดวันเกิดเหตุก็ไม่มีภาพเหตุการณ์นี้ นอกจากนี้ยังมีเบอร์โทรศัพท์ของรองผู้กำกับและตำรวจที่ถูกอ้างถึงโทรเข้ามาเบอร์ น.ส.รำไพ จริง ซึ่งจะนำหลักฐานนี้มายืนยันด้วย
โดยขณะที่ทนายไพศาลให้สัมภาษณ์ก็มีบุคคลปริศนาที่เชื่อว่าเป็นตำรวจมายืนถ่ายคลิปทนายไพศาลและผู้เสียหาย ทำให้ทนายไพศาลไม่พอใจ จากนั้นทนายไพศาล ได้พา น.ส.รำไพ ไป สภ.แห่งหนึ่ง เพื่อขอพบกับผู้กำกับการ และ รองผู้กำกับการฯ ซึ่งตอนนั้นเป็นหนึ่งในชุดจับกุม แต่ไม่พบเพราะอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
รวบ 2 กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ทำร้ายตร. จากเหตุตะลุมบอนกลางกรุง
เบื้องต้นทนายไพศาล จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปสอบถามเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่เจ้าของตลาดบอกว่าวันนั้นไม่มีเหตุจับกุมเกิดขึ้น ซึ่งรองผู้กำกับฯบอกว่า ได้ให้การในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว ไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง
