ในวันที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ผลตอบแทนดอกเบี้ยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน โดยเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝาก ออมทรัพย์ และ ประจำ 3- 6 เดือน ที่เฉลี่ยอยู่เพียง 0.125% / 0.25% หรือเต็มที่ก็แค่ 0.50% ซึ่งหากคุณผู้ชมกำลังจะนำเงินไปฝากประจำอาจจะไม่ตอบโจทย์อีกแล้ว
เมื่อโจทย์หลักคือการสร้างผลตอบแทนดีขึ้น กับระดับความเสี่ยงของการลงทุนที่ไม่สูงมาก คำตอบคงหนีไม่พ้น "ตราสารหนี้" เช่น พันธบัตรรัฐบาล / ตั๋วเงินคลัง / หุ้นกู้ และ ตั๋วแลกเงิน เป็นต้น
ญี่ปุ่นพบเด็กป่วย “ตับอักเสบปริศนา” เคสแรกของเอเชีย หลังพบใน 12 ประเทศ
พาณิชย์ มอบ SACIT นำ BCG Model อัพสกิลผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย
โควิดไทย 10 จังหวัดสูงสุด กทม.ยังอยู่ที่หนึ่ง สามจว.อีสานป่วยแรง
ที่ทุกคนจะได้รับผลตอบแทนในรูปของ “ดอกเบี้ย” อย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และจะได้รับ “เงินต้น” คืนเมื่อครบกำหนดอายุ
สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ขอรัฐตรึงดีเซล 30 บาท 3 เดือน
ส่วนจะเลือกอย่างไรดีนั้น วิธีง่ายๆ คือ การศึกษาจากอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ Credit Rating ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้นักลงทุนได้ร้บทราบข้อมูลความน่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้ง ภาพรวมของอุตสาหกรรม ธุรกิจของบริษัท และสถานภาพทางการเงินของผู้ออกตราสารหนี้ รวบรวมมาเป็นเรทติ้งตั้งแต่ AAA ( ทริปเปิ้ล เอ ) ดีที่สุด ลดหลั่นลงมาถึง D ( ดี )
หากได้รับเรทติ้งตั้งแต่ BBB - ( ทริปเปิ้ล บี ลบ ) ขึ้นไป เรียกว่า Investment Grade ถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ กลับกันหากต่ำกว่า BB+ ( ดับเบิล บี บวก ) ลงมา เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความเสี่ยงบ้าง เรตติ้ง C ( ซี ) มีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้สูง และต่ำสุด คือเรทติ้ง D (ดี ) ที่อยู่ในสถานะผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงตราสารหนี้ที่ไม่ได้จัดอันดับเครดิต ( Unrated Bond)
หากฟังแล้วยังไม่ตอบโจทย์ ก็มีอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ คือ "กองทุนตราสารหนี้ ที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก มีผู้จัดการกองทุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลให้โดยตรง ทั้งยังมีการกระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้หลาย ๆ ตัวใน 1 กองทุนด้วย เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะมีทางเลือกในการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากแล้ว
ต้องเตือน! โอนทิพย์โชว์สลิปปลอม หลอกกินฟรี แบบนี้อย่าหาทำ
อย่างไรก็ตามเราต้องยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกปีนี้ค่อนข้างรุนแรง เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นสูงมาก ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ หรือ กองทุนรวมตราสารหนี้ ก็อาจไม่เพียงพอต่อการชนะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น แล้วจะมีเครื่องมือไหนที่เสริมพอร์ตการลงทุนเอาชนะเงินเฟ้อได้อีกบ้าง ต้องติดตามต่อไป
