ความคืบหน้าล่าสุดสำหรับคดี อดีตพระกาโตะ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งวงการสงฆ์และวงการสื่อ ล่าสุด อดีตพระกาโตะ ออกมายอมรับว่าเงิน 6 แสนบาท ที่นำไปจ่ายให้กับสีกาตอง และนำไปให้พระคนกลางเพื่อใช้ปิดข่าว โดยเป็นเงินของวัดที่เบิกออกมา ผิดไปจากตอนแรกที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นเงินส่วนตัว แต่ยืนยันว่าจะนำเงินทั้งหมดมาคืนให้วัดในวันนี้ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นพระคนกลาง ถูกออกมาแฉว่ามีหมายจับคดีเช็คเด้ง ติดตัวอีกด้วย
แฉอีก “กาโตะ” เบิกเงินวัด 6 แสนใช้จ่ายส่วนตัว หวังปิดปากเรื่องชู้สาว
สื่อนครศรีฯ แจ้งความ “กาโตะ” อ้างจ่ายนักข่าว 3 แสน ปิดเรื่องฉาว
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ อดีตพระกาโตะ หรือ นายพงศกร จันทร์แก้ว ตกเป็นข่าวฉาว ก่อนจะออกมาระบุว่า ได้ใช้เงินส่วนตัว 600,000 บาท ในการจ่ายให้กับสีกาตอง และนำไปให้พระคนกลางเพื่อเอาไปให้นักข่าวอีกทอดเพื่อปิดข่าว โดยตอนแรกอดีตพระกาโตะ ยืนยันหนักแน่นขณะมาออกรายการว่าเป็นเงินส่วนตัวที่ได้มาจากการเทศน์สมัยที่ยังบวชเป็นพระอยู่
ล่าสุด ทางคณะกรรมการวัดเพ็ญญาติ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วง 2 วัน ก่อนที่อดีตพระกาโตะ จะลาสิกขา ได้มาขอเบิกเงินจากวัดจำนวน 600,000 บาท โดยการเบิกเงินของวัดแต่ละครั้ง จะมีคณะกรรมการทั้งหมด 3 คน และจะต้องมีการเซ็นชื่อ 2 ใน 3 ซึ่งอดีตพระกาโตะ อ้างว่าจะเอาเงิน 600,000 บาท ไปปรับปรุงวัด จึงเบิกให้ไป แต่เพิ่งมารู้ข่าวภายหลังว่าพระกาโตะสึกแล้ว และจะนำเงินที่เบิกจากวัดไปให้สีกา และไปใช้ในการปิดข่าว
ต่อมา อดีตพระกาโตะ ได้ออกมายอมรับว่า ได้นำเงิน 600,000 บาท ของวัด ไปจ่ายให้กับสีกาตองเพื่อจบเรื่อง และนำมาให้กับพระคนกลางเพื่อนำไปให้นักข่าวเพื่อปิดข่าวจริง แต่ก็มีการยืนยันว่าจะนำเงินทั้งหมดมาคืนวัดในวันนี้
ขณะเดียวกัน วันนี้ ได้มีเพื่อนผู้เสียหายในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้รายหนึ่ง ได้นำเอกสารหมายจับคดีฉ้อโกงออกมาเปิดเผย โดยหมายจับฉบับนี้ ออกโดยศาลแขวงนครศรีธรรมราช ซึ่งระบุชื่อพระคนกลาง เป็นผู้ต้องหา คดีเช็คเด้ง และหมายจับนี้ ออกเมื่อปี 2561 จะหมดอายุความ 15 กันยายน 2565 เท่ากับว่า สถานะหมายจับยังคงมีผลบังคับใช้ และยังมีการระบุว่าผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ในสถานะหลบหนี
ตอง เปิดหน้าออกรายการยอมรับผิดแต่หากใครวิจารณ์ให้เสียหายพร้อมดำเนินคดี
ขณะที่ ผู้ให้ข้อมูลรายนี้ ยังระบุว่า พระคนกลาง เป็นนักวิ่งเต้นกับให้กับพระชั้นผู้ใหญ่ในกรุงเทพมหานคร และนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายคน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นายยุทธนา แต่งวงค์ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อให้ตำรวจเร่งรัดการสืบสวนข้อเท็จจริงในคดีอดีตพระกาโตะ และวให้เร่งเปิดเผยต่อสาธารณะชน หากพบผู้ใดเข้าข่ายความผิดข้อหาใด ก็ให้มีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายยุทธนา บอกว่า หลังจากที่สื่อมวลชนในพื้นที่นครศรีธรรมราชถูกกล่าวหาว่า ได้รับเงิน 3 แสนบาท ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งไม่เป็นความจริง หลังจากที่ทราบว่ามีพระคนกลางที่รับเงินมาแล้ว แต่ไม่คืน วันนี้จึงต้องมาตามความคืบหน้าคดี ให้เรียกผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น พระคนกลาง อดีตพระกาโตะ หรือใครที่เกี่ยวข้อง ให้มาดำเนินคดีให้ได้
รวมทั้งให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะทราบว่าได้โอนเข้าบัญชี รวมทั้งอดีตพระกาโตะ ยอมรับแล้วว่าได้ไปถอนเงินจากวัดจริง จำนวน 6 แสนบาท และจะนำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนวัด ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ก็กำลังเฝ้าติดตาม แต่ที่ได้ถอนเงินวัดจำนวน 6 แสนบาท ก่อนที่จะสึกนั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งทางสื่อมวลชนในพื้นที่กำลังตรวจสอบเรื่องนี้กันอยู่
ทีมข่าวตรวจสอบไปยัง นายสิทธา มูลหงษ์ โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า หลังทราบประเด็นใหม่เรื่องเงิน 6 แสนบาท ได้สั่งการให้นางพัทยา ทองเสภี ผู้อำนวยการพศ.จ.นครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จเรื่องนี้แล้ว เบื้องต้นพบว่า การเบิกเงินวัดไปในขณะที่ อดีตพระกาโตะ ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส ถือเป็นเจ้าคณะปกครอง จึงมีความผิดและเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ส่วนจะเข้าข่ายคดีอาญามาตรา 157 หรือไม่ ต้องรอให้คณะปกครองสงฆ์ในพื้นที่ ซึ่งมีเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลเป็นผู้พิจารณาตีความ
ขณะเดียวกัน ต้องรอทางคณะปกครองสงฆ์ แต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดก่อน คาดว่าจะได้ตัวเจ้าอาวาสคนใหม่เร็วๆนี้ โดยเจ้าอาวาสคนใหม่ก็จะเป็นผู้ร้องทุกข์ แจ้งความดำเนินคดี ส่วนกรณีมีข่าวกาว่ากาโตะ มีตำแหน่งรักษาการณ์เจ้าอาวาสหรือไม่นั้น มีข้อมูลในพื้นที่ระบุว่า ทางเจ้าอาวาสแค่ให้กาโตะช่วยทำงานแทนเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา มองว่า ประเด็นเรื่องพระกาโตะ สะท้อนถึงความล้มเหลวของสำนักงานพระพุทธศาสนา เพราะส่วนตัวคิดว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรออกมาแสดงท่าทีหรือดำเนินการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องหน่วยงานเหล่านี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
โควิดวันนี้ (4พ.ค.) ป่วยปอดอักเสบ 1,638 ราย ยอด PCR+ATK เฉียด 2หมื่นราย