สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกองพลน้อยที่ 6 , กองกำลังเคเอ็นดีโอ. และกองกำลังพีดีเอฟ.ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government: NUG) อ.สุวาลี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ของเมียนมายังคงมีการสู้รบอย่างหนักบริเวณตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ตำบลวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก
โดยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. 2565 ทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบินขับไล่แบบ MIG 29 บินรุกล้ำเข้ามาเขตไทยจำนวน 1 ลำ
ทอ. ส่ง F-16 ขึ้นลาดตระเวน หลังตรวจพบเครื่องบินรบเมียนมา ล้ำแดนไทย
สำรวจจุดวัยรุ่นชิงเข็มพระเกี้ยว นักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา
คาดน้ำมันโลกพุ่งแตะ 200 ดอลลาร์/บาร์เรล ผลกระทบ จี7 แบนน้ำมันรัสเซีย
ลึกเข้ามาเขตไทยบริเวณบ้านวาเล่ย์ใต้ และบ้านวาเล่ย์เหนือ ประมาณ 4-5 กิโลเมตร จนมองเห็นใกล้ เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ที่มั่นฝ่ายต่อต้านฝั่งเมียนมา ประมาณ 4 รอบ ขณะที่การบินล้ำมาเขตไทย ประกอบกับเสียงระเบิดฝั่งเมียนมา ทำให้ราษฎรในหมู่บ้านวาเล่ย์ทั้ง 2 หมู่บ้านแตกตื่นตะโกนลั่นด้วยความกลัว ชาวบ้านที่มีหลุมหลบภัยในบ้านก็หนีไปหลบในหมู่บ้าน ขณะที่ทางโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ใต้ ได้ประกาศฉุกเฉินให้ผู้ปกครองไปรับบุตรหลานกลับบ้าน และโรงเรียนประกาศหยุดเรียนทันที เนื่องจากบินรบทหารเมียนมาล้ำแดนเข้ามาผ่านหลังคาอาคารเรียนของโรงเรียน ขณะที่โรงเรียนบ้านวาเล่ย์เหนือ ได้กดออดให้สัญญาณนักเรียนหนีเข้าไปยังอาคารหลุมหลบภัยของโรงเรียน และยังมีชาวบ้านไปร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่เครื่องบินเมียนมาจะปฏิบัติการทางอากาศนั้น มีเครื่องบินตรวจการณ์ของทหารเมียนมาบินวนหลายรอบ และเฮลิคอปเตอร์ ไปส่งเสบียงอาหารที่ฐานบ้านวาเล่ย์ของทหารเมียนมา จากนั้นก็มีเครื่องบินรบมิก 29 บินวนในฝั่งเมียนมายิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้าน ต่อมาได้ล้ำเข้ามาน่านฟ้าไทยอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านแตกตื่น
ชาวบ้านในหมู่บ้านวาเล่ย์ใต้ บอกว่า จากการสู้รบที่ผ่านมาหลายวัน เครื่องบินของทหารเมียนมาไม่เคยล้ำมาน่านฟ้าเขตไทย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ล้ำเข้ามา ขณะที่บางคนบอกว่า บินทหารเมียนมาบินเข้ามาในหมู่บ้านต่ำมาก ใกล้กับหลังคาบ้านจนน่ากลัว ทำให้ราษฎรไทยแตกตื่นกลัว
รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง-สีชมพู คาดเปิดให้บริการต้นปีหน้า
ถูกสลากดิจิทัล งวด 16 มิ.ย.65 พบยังไม่ขึ้นเงินกว่า 7 ล้านบาท