สองสามีภรรยาชาว ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นปู่และย่าของน้องวัย 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้น อนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ครูในโรงเรียนปรับเปลี่ยนวิธีการทำโทษเด็กนักเรียน หลังจากที่หลานถูกครูใช้ถาดหลุมอลูมิเนียมสำหรับใส่อาหารตีหัวหลาน เมื่อประมาณ 3 – 4 วันที่ผ่านมา ขณะหลานต่อแถวเดินไปรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับเพื่อนๆจนหลานร้องไห้ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็มีอาการปวดศีรษะหวาดผวาไม่อยากไปโรงเรียน
คาใจครูปิดตาเด็ก ป.5 ให้เพื่อนตบศีรษะ
ครูหนุ่มฝรั่งเศส สักทั้งตัวถูกห้ามสอนเด็กเล็ก
เบื้องต้นปู่กับย่าก็ได้พาหลานไปหาหมอเพราะเกรงจะมีอาการข้างเคียงเพราะหลานป่วยเป็นโรคลมชักอยู่แล้ว หากมีอะไรไปกระทบกระเทือนหรือทำให้น้องเครียดโรคลมชักก็จะกำเริบ หลังเกิดเหตุจึงยังไม่กล้าให้หลานไปโรงเรียนเพราะยังมีอาการหวาดผวา
ปู่และย่า เล่าให้ฟังว่า หลังรับหลานกลับมาที่บ้านดูซึมผิดปกติแล้วใช้มือตบที่หัวตัวเอง จึงถามหลานว่าเป็นอะไรหลานก็เล่าให้ฟังว่าถูกครูใช้ถาดหลุมตีหัว 2 ครั้งโดยมีเพื่อนคนอื่นก็ถูกใช้ถาดตีหัวด้วย เพราะหยอกเล่นกันขณะเข้าแถวไปกินข้าว จึงได้โทรศัพท์ไปบอกแม่ของหลานซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด แม่ของน้องก็ตกใจและเป็นห่วงลูกมากเพราะปกติลูกก็ป่วยเป็นโรคลมชักอยู่แล้ว แต่ก็ยังโล่งใจที่หมอบอกว่ายังไม่พบความผิดปกติอะไร
ด้านปู่ ย่า หนูน้อยรายนี้ ทิ้งท้ายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้อยากจะเอาผิดครู หรือทางโรงเรียน แค่อยากจะฝากให้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำโทษเด็กหากเด็กดื้อหรือทำผิด ควรจะมีวิธีการทำโทษที่ไม่รุนแรงหรือไม่ใช่อวัยวะสำคัญโดยเฉพาะที่ศีรษะเพราะหากเป็นอะไรขึ้นมาแล้วใครจะรับผิดชอบ