เรื่องนี้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งนำมาโพสต์เป็นอุทาหรณ์ เรื่องอาการลองโควิดในเด็ก หรือภาวะ MIS-C หลังหลานสาว น้องโพกัสวัย 7 ขวบป่วยลองโควิดจนต้องตัดขาสองข้าง และขณะนี้อยู่ในช่วงฝึกเดินด้วยขาเทียม ซึ่งน้องโพกัส มีท่าทางร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไป ชาวโซเชียลมาสอบถามเรื่องราวและให้กำลังใจรวมทั้งชื่นชมในความเข้มแข็งของน้องโพกัสจำนวนมาก
ทีมข่าวได้ติดต่อสอบถามเรื่องนี้กับคุณรัชชานนท์ แก้วบุญ พ่อน้องโพกัส เล่าว่า เมื่อช่วงพ.ย.64 ซึ่งเป็นช่วงที่โควิดสายพันธุ์เดลต้าระบาดหนัก
รายได้น้อย-ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อย่าลืมลงทะเบียนใช้ไฟฟ้าฟรี 50 หน่วย หมดเขตสิ้นเดือนนี้
ชาวนาสุดช้ำ น้ำท่วมนา ต้นข้าวเน่าหมด ไม่มีข้าวขายใช้หนี้ วอน ธ.ก.ส.ลดดอกเบี้ย-พักชำระหนี้
น้องโพกัสได้ติดโควิดจากญาติ แต่ช่วงที่ป่วยก็มีไข้สูงไม่ถึง 2 วัน จากนั้นก็ไม่มีอาการอื่น คาดว่าเพราะน้องโพกัสแข็งแรง เนื่องจากชอบว่ายน้ำตั้งแต่ยังเล็ก
แต่หลังหายป่วยโควิด ลูกเริ่มบ่นว่าเหนื่อยเวลาต้องเดินเที่ยวไกลๆ จากนั้นก็มีไข้สูง เมื่อลองใช้เครื่องตรวจหัวใจตรวจดู ก็พบว่าและหัวใจเต้นเร็ว จึงพาไปโรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นโรงพยาบาลต่างๆก็ยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับอาการลองโควิด เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ จึงยังไม่ทราบว่าป่วยเป็นอะไร เพราะตรวจแล้วก็ไม่เจอเชื้ออะไร จึงให้น้ำเกลือและกลับบ้าน แต่จากนั้นน้องโพกัสก็มีอาการเดิมอีก จนผ่านไป 3 วันจึงมีอาการไตวาย และอวัยวะภายในทุกส่วนมีภาวะอักเสบ จนต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลชลบุรี ซึ่งมีประสบการณ์รักษาเด็กคนหนึ่งด้วยภาวะ MIS-C เหมือนกัน
คุณรัชชานนท์ ยังเล่าว่า ตอนนั้นหมอต้องให้ยาเพื่อให้น้องโพกัสนอนหลับนานเป็นเดือน เพื่อให้การรักษาง่ายขึ้น ช่วงนั้นมือเท้าของน้องโพกัส เริ่มดำเพราะหัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่ดีพอเนื่องจากมีภาวะอักเสบ สุดท้ายหมอต้องตัดขาเพื่อรักษาชีวิต ซึ่งหลังน้องโพกัสฟื้น คุณหมอก็ช่วยดูแลสภาพจิตใจอย่างดี และอธิบายสาเหตุที่ต้องตัดขา จนลูกสาวเข้าใจ ใช้เวลารักษาอยู่นาน 2 เดือนจึงออกมารักษาต่อที่บ้าน
เมื่อถามว่าครอบครัวดูแลสภาพจิตใจน้องโพกัสอย่างไร จึงได้เป็นเด็กที่กลับมาร่าเริงอีกครั้ง คุณรัชชานนท์ก็พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่าพยายามที่จะอยู่กับลูกตลอด และพยายามพูดให้กำลังใจให้ลูกพยายามกลับมาเดินให้ได้อีกครั้ง ซึ่งลูกสาวก็ใจสู้มากในการฝึกเดินด้วยขาเทียม
เมื่อถามว่าอยากจะบอกอะไรกับผู้ปกครองคนอื่นๆ คุณรัชชานนท์ บอกว่า ลองโควิดนั้นอันตรายกว่าที่คิด ทางที่ดีก็ควรระมัดระวังไม่ให้ลูกหลานติดโควิดจะดีกว่า อย่าคิดว่าเป็นแค่หวัดธรรมดา เพราะเด็กยังมีภูมิต้านทานน้อย ไม่มีทางทราบว่า เด็กจะมีอาการอะไรตามมาภายหลังบ้าง แต่กรณีที่ป่วยแล้วก็ควรหมั่นสังเกตบุตรหลานว่ามีอาการอะไรหรือไม่