วันที่ 14 ธ.ค. 2565 นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง แถลงเปิดโปงขบวนการอุ้มบุญซื้อพ่อว่า ขบวนการนี้คือการมาอยู่เมืองไทยในระยะยาว โดยสามีกับภรรยาเป็นคนจีน เดินทางมายังประเทศไทย ภรรยากำลังอุ้มท้อง จากนั้นจะทำการซื้อพ่อไทย แล้วก็เข้าฝากท้องที่โรงพยาบาลเอกชน โดยแจ้งว่าเด็กในท้องมีพ่อเป็นคนไทย แม่เป็นคนจีน เด็กคลอดออกมาก็ไปที่ว่าการอำเภอ หรือ สำนักงานเขต เพื่อทำสูติบัตรสัญชาติไทย
ยึดทรัพย์ 300 ล้าน เครือข่ายมาเฟียจีน
"ชูวิทย์" เผาพริกเกลือแช่งคู่ปรับช่วยทุนจีน
เมื่อเด็กอายุ 7 ขวบ ก็ต้องทำบัตรประจำตัวประชาชน และสามารถซื้อบ้านได้ เนื่องจากมีสัญชาติไทย โดยอ้างว่าเป็นบ้านแม่ซื้อให้ โดยบ้านหลังดังกล่าวก็เป็นชื่อลูก
เมื่อเด็กอายุ 13 ปี สามารถจัดตั้งบริษัทได้ และวสามารถถือหุ้นในจำนวน 51 % เพราะเป็นคนไทยสัญชาติไทย ซื้ออสังหาฯ ที่ดินและสิทธิอื่นๆที่ชาวต่างชาติทำไม่ได้
“กระบวนการนี้ถูกปิดปากโดยตำรวจเชื่อมไปถึงอดีตตำรวจเชื่อมไปถึงนักการเมืองคนหนึ่ง”
นาย ชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ขบวนการนี้เป็นการวางแผนระยะยาวในการกลืนชาติไทย ทำเยอะที่เชียงใหม่ เชียงราย และ อ.เชียงแสน
“ผมกลุ้มใจเพราะสิ่งที่ผมทำเหล่านี้มันมีคนเจ็บแค้น มีคนลงขัน ตั้งค่าหัวผม แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะทุกคนก็ต้องไปหมดไม่เห็นมีใครเหลือสักคน”
นาย ชูวิทย์ กล่าวว่าในวันศุกร์ ที่ 16 ธ.ค.นี้เวลา 11.30 น.ตนจะเดินทางไปหาผบ.ตร. เพื่อสอบถามคดีตู้ห่าวว่าทำไมไม่ตั้งข้อหาสมคบในการฟอกเงิน