กรณี “เรือหลวงสุโขทัย” ประสบเหตุน้ำเข้าเรือ จากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือจนเครื่องไฟฟ้าดับ เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ จนทำให้เรือเอียงและอับปางลงใต้ทะเล ส่งผลทำให้มีผู้ประสบเหตุในครั้งนี้จำนวน 105 ราย โดยได้รับการช่วยเหลือแล้ว 76 ราย สูญหายอยู่ระหว่างการค้นหาเพื่อช่วยเหลือจำนวน 23 ราย และเสียชีวิต 6 ราย
ล่าสุด กองทัพเรือ ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดสิทธิกำลังพล และการเยียวยากำลังที่เสียชีวิต โดยทุกนายจะได้รับการชดเชยปูนบำเหน็จ ตามระเบียบของราชการ โดยรับการเลื่อนยศสูงขึ้น 5 ชั้นยศ และได้รับเงินชดเชยประมาณ 1-2 ล้านบาท แล้วแต่สิทธิของแต่ละบุคคล ประกอบด้วย
- ว่าที่เรือเอก สามารถ แก้วผลึก เป็น พลเรือตรี สามารถ แก้วผลึก ได้รับเงินจากทางราชการ รวมประมาณ 2,000,000 บาท
- พันจ่าเอก อำนาจ พิมที เป็น นาวาตรี อำนาจ พิมที ได้รับเงินจากทางราชการ รวมประมาณ 1,000,000 บาท
- พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ เป็น นาวาตรี อัชชา แก้วสุพรรณ์ ได้รับเงินจากทางราชการ รวมประมาณ 1,000,000 บาท
- พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ เป็น นาวาตรี สมเกียรติ หมายชอบ ได้รับเงินจากทางราชการ รวมประมาณ 1,000,000 บาท
- จ่าเอก จักรพงค์ พูนผล เป็น เรือตรี จักรพงค์ พูนผล ได้รับเงินจากทางราชการ รวมประมาณ 900,000 บาท
- พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ เป็น จ่าเอก อัครเดช โพธิ์บัติ ได้รับเงินจากทางราชการ รวมประมาณ 600,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีเงินนอกเหนือจากทางราชการชดเชยให้
- เงินประกันหมู่แบบเฉพาะกิจ ทร. รายละ 500,000 บาท
- กองทุนน้ำใจไทยผู้เสียสระ ทร. รายละ 100,000 - 160,000 บาท
- เงินสวัสดิการสงเคราะห์กรมสวัสดิการทหารเรือและเงินชดเชยอื่นๆ (คณะกรรมการฯ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กองทัพเรือกำหนดต่อไป)