“ศศิน”จี้ นายกฯ คืนความชอบธรรมให้จนท.อุทยานฯ ที่โดนย้าย

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เรียกร้องให้คืนความชอบธรรมให้บุคลากรกรมอุทยานแห่งชาติ ที่โดนอธิบดีรัชฎา โยกย้าย

กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายชัยวัฒน์​ ลิ้มลิขิตอักษร​ เดินทางเข้าให้ข้อมูลในคดี สืบเนื่องจากการที่ บก.ปปป. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สนธิกำลังเข้าจับกุม​ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ​ ข้อหารับสินบนซื้อตำแหน่ง นั้น

“วีระ” แฉ ทส.เคยสอบปม ส่งส่วยแลกตำแหน่งอธิบดี

เปิดชื่อหน่วยงานใส่ซองมอบให้อธิบดีฯ

วันนี้ 4 ม.ค. 2566 นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า เรื่องกรมอุทยานฯ นี่ผมเหนื่อยแล้ว ถือว่าทำหน้าที่เท่าที่ตามควรแล้วระดับหนึ่ง วันนี้คงให้สัมภาษณ์และโพสต์เป็นวันสุดท้ายนะครับ แต่ในเชิงระบบ มูลนิธิสืบนาคะเสถียรก็จะทำงานอะไรที่พอจะเสนอแนะเชิงนโยบายที่มีประโยชน์ต่อไป

ผมจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่อาจจะได้ผลคุ้มเวลามากกว่า ผมเชื่อว่าปัญหาแบบนี้จะแก้ไขสำเร็จ ไม่ใช่มาจากคนนอกอย่างผมหรอกครับ  คนในกรมอุทยานฯมากมายต่างหาก ที่ต้องเริ่มรวมตัวกันต่อต้าน ระบบเคาะกะลาทำลายป่า ไม่ต้องกล้าตายพลีชีพ แต่ต้องมุ่งมั่นทำงาน รวมตัวกันเป็นกลุ่มย่อยๆ เริ่มแสดงเจตนาว่า กูจะไม่ยอมมึงบ้างนะ ไม่ต้องระดับพลีชีพ แต่ค่อยๆรวมกัน ตรงโน้นตรงนี้ และไกลมาเป็นขบวนแห่งศักดิ์ศรี มีวิชาชีพที่ภูมิใจ

โบราณว่า รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี นั่นใช้ได้ แต่อาจารย์ผมเคยสอนไว้ว่า หาก รู้เอาแต่ตัวรอดยอดอัปรีย์  เราสามารถกำหนดตัวเองได้ว่าจะเลือกยอดไหนโชคดีนะพี่น้อง

คอนเทนต์แนะนำ
เปิดไทม์ไลน์ร้องเรียน "รัชฎา" อธิบดีกรมอุทยานฯ ก่อนถูกจับคาโต๊ะทำงาน ปมรีดส่วย
"วราวุธ" ขอให้เชื่อมั่น ทส. ย้ำแก้ปัญหาส่วย
“ชัยวัฒน์” เข้าให้ปากคำ ปปป. คดีทุจริตรับส่วย

ก่อนหน้านี้ นายศศิน ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า  ทำไมผมถึงเรียกร้องให้ คืนความชอบธรรม จากระบบเคาะกะลาทำลายป่า ที่อธิบดีรัชฎาโดนล่อซื้อ  เรื่องการทุจริตผลประโยชน์เป็นเพียงสิ่งที่เห็นได้ชัด แต่ปัญหาที่ทำลายองค์กร และความเป็นธรรมที่ยังไม่ได้พูดกันมากนักได้แก่

1. อธิบดีรัชฎาเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ ได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการระดับบริหาร ซี 9 แทบจะในช่วงวันแรกเหมือนเตรียมการมานานเกือบทั้งหมด ราวๆ 20-30 คน ส่วนใหญ่ให้ไปอยู่ตำแหน่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดต่างๆ โดยไม่มีความผิดอะไร ไม่ได้ทำงานร่วมกัน หลายคนมีผลงานดีเป็นที่ประจักษ์ก็ย้ายไปทำงานในภารกิจที่ไม่มีความสำคัญเทียบเท่างานเก่า แต่ข้าราชการระดับนี้คือคนคุมระบบทั้งระบบในโครงสร้างงบประมาณ ที่สำคัญคือการแต่งตั้งข้าราชการระดับนี้เป็นอำนาจของระดับกระทรวงที่ต้องหาตำแหน่งในกระทรวงให้และต้องออกคำสั่งให้ไม่ได้อยู่ในอำนาจของอธิบดีรัชฎา ดังนั้นความไม่ชอบธรรมเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรง เรื่องนี้ไม่ผิด แต่ขาดความชอบธรรม

2. การโยกย้ายข้าราชการเข้ามารับตำแหน่งซี 9 แทนคนที่ถูกย้ายออก ก็เป็นอำนาจของระดับกระทรวงเช่นเดียวกับข้อ 1 ดังนั้นการย้ายทีมงานระดับบริหารมาเพื่อควบคุมโครงสร้างสำคัญที่ควรคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีข้อสังเกตว่าทำไมอธิบดีและการเสนอบุคคลไปยังกระทรวงให้ตัดสินใจจึงสามารถคัดสรรผู้คนมาได้อย่างรวดเร็วทันที ทั้งๆที่หลายๆคนที่เข้ามามีมลทินด้านการทุจริตในระดับที่ ปปช.ชี้มูลด้วยซ้ำ ซึ่งความไม่ชอบธรรมนี้การตัดสินใจของกระทรวงก็มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงเช่นกัน

ดังนั้นใน ข้อ 1 และ 2 เมื่อมีกรณีที่อธิบดีรัชฎามีข้อหาที่มีหลักฐานชัดเจนต่อสังคมในระดับนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรคืนความเป็นธรรมให้บุคลากรที่ถูกโยกย้ายในครั้งนั้น และปรับโครงสร้างการบริหารที่เกี่ยวเนื่องกับคดีความผิดของอธิบดีรัชฎา

3.คำสั่งให้ข้าราชการระดับ 8 นับร้อยตำแหน่ง พวกนี้เป็นข้าราชการที่อาวุโสทำงานมายาวนาน 20-30 ปี กลับไปประจำตำแหน่งสังกัดเดิม ถ้ามีคำสั่งให้คนอื่นมาแทนทันที เป็นเทคนิคที่แทบจะไม่เคยมีใครเคยเห็นว่าทำกันได้ขนาดนี้ ข้าราชการระดับผู้อำนวยการส่วน และหัวหน้าพ้นที่อนุรักษ์สำคัญ ถูกเป็นเป้าหมายเพื่อโยกย้ายคนอื่นเข้ามาแทนที่ได้ทันที โดยไม่ต้องหาตำแหน่งที่มีความสำคัญเทียบเท่ากันไว้รองรับเมื่อมีความต้องการที่จะหาคนใหม่ของตนเองเข้ามาแทน หากมีผลประโยชน์ตามขบวนการเคาะกะลาจริง ก็จะเป็นช่องให้เรียกรับผลประโยชน์สองต่อทั้งผู้ที่ย้ายมาแทน และการป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกย้ายไป หรือหากถูกย้ายไปแล้วไม่มีงานหรือไกลจากบ้านปัจจุบันก็อาจจะเป็นช่องทางให้ต้องวิ่งเต้นหาเงินทองมาขอให้ได้กลับมาอยู่ในภูมิภาคเดิม ตำแหน่งเหล่านี้คือตำแหน่งที่ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางการดูแลงบประมาณที่มาจากสำนักส่วนกลางอีกที และเป็นตำแหน่งที่ดูแลบุคลากรในระดับหัวหน้าในพื้นที่อนุรักษ์ และหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามอื่นๆที่ล้วนมีงบประมาณค่าใช้สอยประจำปี

4. มีการโยกย้ายหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามแทบจะเป็นคำสั่งรายวันในระยะแรกๆที่อธิบดีรัชฎาเข้ารับตำแหน่ง โดยเฉพาะหัวหน้าอุทยานฯที่มีความสำคัญด้านเก็บเงินรายได้ พวกหัวหน้ามีการโยกย้ายประมาณ 60% ในร้อยกว่าตำแหน่ง ทั้งๆที่หัวหน้าอุทยานเหล่านี้ในช่วงที่ผ่านมาล้วนผ่านงานสำคัญในช่วงการปฎิรูปใหญ่ ทั้งการสำรวจพื้นที่แก้ไขปัญหาชุมชนในป่าตาม พรบ.ใหม่ปี 62 การสำรวจและจัดประชุมการใช้ทรัพยากรพวกของป่าตามพรบ.ใหม่ 62 เช่นเดียวกัน ที่ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์การทำงานอย่างสูง การขยายระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพในพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศผ่านเกณฑ์ของศูนย์ความคุมจากส่วนกลางที่ทำได้อย่างดีเป็นที่ประจักษ์ทำให้ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเก็บเงินรายได้เข้าอุทยานที่ไม่รั่วไหลเหมือนในอดีตเข้ามาส่วนกลางและคืนกลับไปสู่ท้องถิ่น คืนไปปรับปรุงบ้านพักเจ้าหน้าที่ การบริหารนักท่องเที่ยว ยานพาหนะ และโครงการต่างๆที่พลิกโฉมอุทยานอย่างผิดหูผิดตา หัวหน้าพื้นที่ที่มีผลการทำงานเหล่านี้ถูกโยกย้ายออกไปอย่างไม่เป็นธรรมเช่นกัน รวมถึงหัวหน้าภาคสนามอื่นๆอีกจำนวนมาก

ดังนั้นผู้ที่เข้ามาทำงานแทนอธิบดีรัชฎาก็ควรหาวิธีการคืนความชอบธรรมให้กับบุคลากรทั้งในข้อ 3 และ 4 นี้ด้วยเรียนมาด้วยความปราถนาดีนะครับท่านนายกฯ

คอนเทนต์แนะนำ
คำขวัญวันเด็ก ปี 2566 “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี”
ประธานรัฐสภามอบคำขวัญวันเด็ก 2566 "ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต"

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ