ความคืบหน้าประเด็นร้อน กรณีดาราไต้หวันแฉ ตำรวจไทยไถเงิน ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าฝ่ายไหนพูดจริงพูดเท็จ ตำรวจและพยานที่ขับแกร็บบอกดาราเมาหนักมาก แต่เธอปฏิเสธว่าไม่ได้เมา และโดนตำรวจรีดเงินไปจริง สุดท้ายทุกคนกำลังรอว่าตำรวจจะเปิดวงจรปิดเมื่อไหร่ เรื่องจะได้กระจ่าง
ผู้สื่อข่าว มีโอกาสพูดคุย กับ นายบี ( นามสมมุติ ) คนขับรถ แกร็บคาร์ ซึ่งเจ้าตัวเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว โดย นายบี เปิดใจ กับ PPTV ยืนยันว่า ตัวเองไม่ใช่พยานเท็จ ไม่ใช่เครื่องมือของตำรวจ ทุกสิ่งที่ให้ปากพูดตามความเป็นจริง
สภาพอากาศวันนี้! เหนือ-กลาง-อีสาน อากาศเย็น อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ
“บิ๊กตู่” ปราศรัยครั้งแรก ขอสานต่อ"คนละครึ่ง-บัตรคนจน"
“ผมจะไปให้การเท็จทำไม ในเมื่อวันนั้นตำรวจเป็นคนมาเรียกมาเชิญผม และผมก็อยู่ในเหตุการณ์ ผมไม่ใช่พวกให้การเท็จ ไม่มีทางกลับคำให้การหรอกครับ ผมจะไปรู้เห็นใจได้อย่างไร ผมยังไม่รู้จักตำรวจเลย”
โดยเขาเล่าว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารชาวต่างชาติมาจากย่านสุขุมวิท เพื่อมาส่งที่ย่านห้วยขวาง แต่ตำรวจตั้งด่านตรวจบริเวณสถานทูตจีน ได้เรียกตรวจ พร้อมระบุว่าไม่ต้องรอเนื่องจากการตรวจต้องใช้เวลานาน ชาวต่างชาติชายคนดังกล่าวจึงลงจากรถไป
ในจังหวะที่กำลังจะขับรถออกจากด่าน ก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกกลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยชาย 3 คนหญิง 1 คนได้ขึ้นมาบนรถ โดยชายคนแรกนั่งข้างหน้า ส่วนชายอีก 2 คนข้างหลัง และผู้หญิงนั่งฝั่งประตูขวามือหลังคนขับรถ
จากนั้นผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่ด้านหลัง สามารถสื่อสารภาษาไทยได้บ้างเล็กน้อย บอกว่าไปห้วยขวาง แต่เมื่อขับออกมาได้เล็กน้อย ชายคนดังกล่าวบอกว่า ไปส่งเพื่อนรัชดา 32 ก่อน เมื่อถึงรัชดา 32 ชายนั่งหน้าก็ลงจากรถ แล้วก็ขับออกไปส่ง 3 คนที่เหลือย่านห้วยขวาง ซึ่งเวลานั้นประมาณตี 3 โดยผู้ชายซึ่งพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยเป็นคนจ่ายเงินค่ารถ จำนวน 200 บาท ซึ่งราคาตามมิเตอร์อยู่จะประมาณร้อยกว่าบาท ส่วนที่เหลือเขาบอกไม่ต้องทอน
ตัวเขา ยืนยันว่า ไม่ทราบข่าวที่เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่คนขับรถที่รับลูกค้าไปส่งตามจุดหมายเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเพิ่มเติม ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ติดตามให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มาโดยตลอด สั่งกำชับให้ตำรวจดำเนินการตรงไปตรงมา พร้อมกับ สั่งการเพิ่มเติมไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้ตำรวจกองบังคับการสืบสวนนครบาล (บก.สส.) ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ทุกประเด็น ยืนยันไม่เข้าข้างใคร ทุกอย่างต้องว่าตามข้อมูล พยานหลักฐานที่ปรากฏ
เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เมื่อความจริงออกมาเป็นเช่นใด พร้อมที่จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ถ้าพบว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
มอบตัวแล้ว 3 ดีเอสไอ บุกคอนโดฯ จีนเทา-บ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู
เผยภาพถ่าย “ดาวหาง” จากยอดดอยอินทนนท์