แค่เอยชื่อ วงการตำรวจ ต้องรู้จัก “ดาบศร” คอยเคลียร์หน้าเสื่อ หิ้วสินบนส่ง “นายพล จ”

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ออกมาเปิดเผยถึงชื่อตัวละครลับ “ดาบศร” บอกว่าตัวละครนี้เป็นคนสำคัญที่คอยเคลียร์หน้าเสื่อรับสินบนจากเว็บพนันออนไลน์ไปให้กับนายพล จ. วันนี้ทีมข่าวจึงเดินทางไปพบกับนายชูวิทย์อีกครั้ง เพื่อขอรายละเอียดว่า ดาบศร คนนี้เป็นใคร รวมถึงจากขบวนการที่แฉมาทั้งหมด จะสาวไปถึงนายพล จ. ได้หรือไม่

นายชูวิทย์ บอกว่า ดาบสร คนนี้เป็นคนที่วงการตำรวจรู้จักกันดี อาจจะยังบอกชื่อจริงไม่ได้ แต่แค่เอ่ยชื่อดาบศร ทุกคนก็รู้จักหมด เพราะเป็นดาบที่น่าจะรวยที่สุดในประเทศไทย 

นายชูวิทย์ ใบ้ว่าดาบศรคนนี้เป็นคนใต้  มีรีสอร์ทเป็นของตัวเอง 5 แห่ง มีรถหรูหลายคัน และมีเงินในบัญชี หลายพันล้านบาท 

พฤติกรรมของ ดาบศร นายชูวิทย์ บอกว่า ตั้งตัวเป็นคนกลางรับเคลียร์หน้าเสื่อ “รับเคลียร์หน้าเสื่อ” ในที่นี้หมายถึง ใครที่ต้องการให้ไปเก็บส่วยที่ไหน ก็จะมาใช้ดาบศรให้ไปจัดการ เพราะดาบศรไว้ใจได้ ไม่แพร่งพรายความลับ ดาบศรก็จะไปเก็บส่วยมา หักไว้เป็นค่าดำเนินการ 15-20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 80 เปอร์เซ็นต์ ก็ส่งต่อให้กับนาย ทำแบบนี้มานานหลายปีจนร่ำรวย รับเคลียร์ทั้งพนันออนไลน์ และน้ำมันเถื่อน

เมื่อถามนายชูวิทย์ว่าแบบนี้ดาบศร เป็นคนกลาง รับ-ส่ง ส่วยให้กับนายหลายคนใช่หรือไม่ นายชูวิทย์ บอกว่า เท่าที่ยินมา ก็มีขาประจำคือนายพลคนหนึ่งในข่าวด้วย 

นายชูวิทย์ ยังบอกว่า แค่เอ่ยชื่อดาบศรตำรวจทั้งวงการต้องรู้จัก แม้แต่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ก็น่าจะรู้เช่นกัน เพราะดาบคนนี้ชื่อดัง แต่หลักฐานจะสาวไปถึงหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ เพราะทำมานาน เป็นตำรวจด้วย ทำงานเป็นมืออาชีพ 

ทีมข่าวก็พยายามจะสอบถามต่อว่าแล้วนายพล จ. ที่ว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังคอยรับเงินจากพวกเว็บพนันออนไลน์  จะสามารถสาวไปถึงนายตำรวจคนนี้ได้หรือไม่ นายชูวิทย์ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก

ส่วนกรณีที่นายเบนซ์ เดม่อน 1 ใน 4 พี่น้องตระกูล บ. ที่ถูกกล่าวหาว่าทำเว็บพนันมาเก๊า 888  ล่าสุดเดินทางกลับมาสู้คดี ทีมข่าวถามว่า ลักษณะนี้เบนซ์ เดมอน เตรียมความพร้อมมาแล้วหรือไม่ ส่วนกรณีของสารวัตรซัวที่นายชูวิทย์แฉว่าทำเว็บพนันไซส์ L  ตอนนี้ยังอยู่ต่างประเทศ คิดว่าจะกลับมาหรือไม่ เรื่องนี้นายชูวิทย์อธิบบายว่าทั้งคู่มีปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจกลับ-ไม่กลับ ต่างกัน

กรณีของเบนซ์ เดม่อน นายชูวิทย์บอกว่า มาเก๊า 888 เป็นแค่เว็บรายย่อย แม้ว่าจะทำมาแล้วหลายปี แต่ถูกแฉแบบกระทันหัน เพราะฉะนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว ทรัพย์สินส่วนใหญ่ยังอยู่เมืองไทย ครอบครัวก็อยู่เมืองไทย ดังนั้นจะหนีไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย 

แต่แตกต่างจากกรณีของสารวัตรซัว  ที่เป็นเจ้าพ่อ เป็นรายใหญ่ มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศอยู่ที่ไหนก็ทำงานทำเงินได้ ไม่มีภาระครอบครัวที่เมืองไทย ทรัพย์สินส่วนใหญ่ถูกถ่ายโอนไปต่างประเทศนานแล้ว และมีบ้านอยู่ต่างประเทศด้วย ที่สำคัญสารวัตรซัวร์ถือพาสปอร์ตอื่นอีก 2 สัญชาติ  เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับมาสู้คดีที่ประเทศไทย เพราะเขาเตรียมทางหนีทีไล่ไว้นานแล้ว