ความคืบหน้าการดำเนินคดี วันนี้ 16 ก.พ. 2566 ตำรวจก็ยังคงเรียกตัว นายพุทธ และ น.ส.นิ่ม พ่อกับแม่ของน้องต่อ เข้าไปสอบปากคำที่ สภ.บางหลวง เหมือนเช่นทุกวัน ก่อนออกจากบ้าน ทั้งพุทธ และนิ่ม ก็พูดกับทีมข่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องต้องไปโรงพักทุกวัน บางวันก็อยู่จนดึกดื่น แม้จะเข้าใจว่าตำรวจต้องทำตามหน้าที่ แต่ก็รู้สึกเครียดและอึดอัด
ทั้งสองคนบอกว่า ตลอดเวลาที่ตำรวจเรียกไปสอบปากคำ ก็จะถามคำถามเดิมๆ ซึ่งก็ได้บอกตำรวจไปหมดแล้ว และยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่รู้จริงๆ ว่าลูกชายหายไปไหน
ยังไม่พบน้องต่อ!เชิญคนใกล้ชิดสอบ-ตรวจดีเอ็นดี
ลือสะพัด! พาพ่อแม่น้องต่อ เข้าเครื่องจับเท็จ
จากข้อมูลของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดี “น้องต่อ” เมื่อวานนี้ และได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่าคดีของน้องต่อ ไม่ซับซ้อน แต่มีคนไม่พูดความจริง พร้อมยังให้ข้อมูลว่ากลุ่มบุคคลต้องสงสัยเชื่อมโยงการหายตัวไปของ “น้องต่อ” มีตัวละครมากกว่า 4 คน หลัก ๆ คือ นายพุทธ กับ นางสาวนิ่ม ซึ่งเป็นพ่อและแม่เด็กชายต้องสงสัย ที่พบกับนิ่มเกือบทุกวันและคนที่นิ่มชอบเอาลูกไปฝากไว้
ทีมข่าวจึงลองไปสอบถามว่า ใครคือคนที่ “นางสาวนิ่ม” มักจะพาน้องต่อไปฝากไว้ ซึ่งก็ทราบว่า คือ “ป้าหมี” ซึ่งเธอยอมรับว่า นิ่มเคยเอาน้องต่อมาฝากเลี้ยง แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 10-20 นาที เพื่อออกไปซื้อของ เพราะปกตินิ่มจะเลี้ยงลูกเอง เวลาไปไหนมาไหนก็จะพาลูกขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปด้วย
ป้าหมี บอกว่า เธอเคยอุ้มหลานมาเล่นบ่อยๆ “น้องต่อ” เข้าได้กับทุกคนแถวบ้าน ถ้าคนรู้จักมาอุ้ม “น้องต่อ” ก็จะไม่ร้องไห้ หรืองอแงเลยหากถามว่าสงสัยใครไหม ป้าหมี ก็บอกว่าไม่รู้ว่าใครมาอุ้มหลานไป
ขณะที่ฝั่งของ นิ่ม แม่น้องต่อเอง ก็บอกว่าเคยพาลูกไปฝากป้าหมีเลี้ยง แค่บางครั้งที่ต้องการไปทำธุระ เช่นไปซื้อของข้างนอก แต่ก็ไม่นานไม่เกิน 1 ชั่วโมง ส่วนทำอะไรบ้างไปไหนบ้าง ก็ได้ให้ข้อมูลตำรวจหมดแล้ว
ตั้งแต่ “น้องต่อ” หายตัวไปจนถึงวันนี้ ตำรวจเรียกญาติของ นายพุทธและนางสาวนิ่มไปสอบปากคำมากกว่า 20 ปากแล้ว เพื่อหาพยานหลักฐาน พร้อมทั้งตั้งชุดสืบทั้งจากตำรวจภูธรภาค7 ชุดสืบจังหวัดนครปฐม และ สภ.บางหลวง ซึ่งขอเวลาในการทำงาน แต่ยืนยันว่า ตอนนี้ตีวงแคบลงมากแล้ว และยังตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งประเด็นคนนำตัวเด็กไป การฆาตกรรม หรือการซุกซ่อนศพ.