ตำรวจชุดสืบสวนนำตัว น.ส.นิ่ม และ นายพุด พ่อแม่ของ “น้องต่อ” ออกจากโรงพัก ช่วงประมาณ 11 .34 น.วันนี้ 15 ก.พ.2566 หลังทั้งสองคนถูกนำตัวมาสอบปากคำที่โรงพักตั้งแต่ช่วงเช้า แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะนำตัวไปที่ไหน ทางตำรวจก็ไม่ยอมเปิดสถานที่ บอกแต่เพียงว่านำไปสอบสวนเพิ่มเติม
ซึ่งก็มีกระแสข่าวว่า ตำรวจนำตัวทั้งสองคนไปเข้าเครื่องจับเท็จ แต่ต้องยกเลิกเพราะทั่ง นายพุด และน.ส.นิ่ม ค่อนข้างอ่อนเพลียจากการถูกสอบปากคำต่อเนื่อง สุดท้ายตำรวจก็นำตัวทั้งสองคนกลับมาสอบปากคำต่อที่โรงพัก
ยังไม่พบ "น้องต่อ" หายปริศนา 4 วัน
บินโดรน ตามหา "น้องต่อ" 5 วันยังไร้วี่แวว เร่งสอบบุคคลต้องสงสัย พยานเพิ่มเติม
ส่วนอีกคนที่ถูกตำรวจเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ ก็คือ ลุงวี อายุ 78 ปี คนที่เคนให้การกับตำรวจว่าเห็นชายเสื้อเหลืองอุ้ม “น้องต่อ” ออกจากบ้าน ซึ่งลุงวียังยืนยันเหมือนเดิมว่าเห็นจริงๆ พร้อมทั้งยังทำท่าทางอุ้มเด็กให้กับผู้สื่อข่าวดูด้วย
และเล่าย้อนว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังนั่งเล่นอยู่แถวบ้านน้องต่อ มองไปเห็นชายคนหนึ่งเดินเร็ว ๆ กึ่งวิ่งออกมาจากบ้านน้องต่อ และเขาไปในตรอกแถวบ้านน้องต่อ ลักษณะสองมือประคองคล้ายอุ้มบางอย่าง แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจ จนมารู้ทีหลังว่า “น้องต่อ” หายไป จึงเอะใจว่าอาจเป็นชายเสื้อสีเหลืองที่เห็น
ส่วนอีกประเด็นที่มีแชตหลุด ข้อความจาก นางสาวนิ่ม ส่งไปยังป้าหมี ระบุว่า "ให้ช่วยบอกพ่อด้วยว่าโดนจับแล้ว" และมีข้อมูลการโอนเงิน จำนวน 10,000 บาท ให้กับ น.ส.นิ่มนั้น ทั้งหมดออกมายืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าเป็นเงินที่ฝากโอนมาอีกทีหนึ่ง
ความเคลื่อนไหวช่วงบ่ายวันนี้ พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางร่วมประชุมกับชุดคลี่คลายคดี ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่าตำรวจเร่งตรวจสอบวัตถุพยาน และหลักฐาน เพื่อคลายความสงสัยประเด็นต่างๆ แต่ตอนนี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ได้ให้เก็บไปตรวจสอบก่อนหน้านี้ ขอเวลาให้ตำรวจทำงานก่อน และยังเชื่อมั่นว่า “น้องต่อ” ยังมีชีวิตอยู่ คาดว่าทุกอย่างจะคลี่คลายในเร็ววันนี้
ขณะที่ประเด็นสงสัยต่าง ๆ ทั้งเรื่องปัญหาทะเลาะวิวาทกันของพ่อแม่เด็ก รวมถึงหลักฐานที่พบรอยเลือดบริเวณปอกหมอน และเส้นทางการเงินของทุกคนในครอบครัว อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่ขอสงวนเอาไว้ก่อน
ส่วนกลุ่มคนต้องสงสัย ตอนนี้ยังมีตัวละครประมาณ 4 คน เป็นทั้งคนในพื้นที่ และนอกพื้นที่ โดยตั้งแนวทางสืบสวน 3 ประเด็น แต่ขอสงวนไว้ก่อน อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการว่าประเด็นใดบ้าง / สำหรับการนำตัว พ่อและแม่เด็กเข้าเครื่องจับเท็จนั้น อยู่ระหว่างกระบวนการที่ต้องสอบสวนทุกมิติ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าจำเป็นจะต้องเข้าเครื่องจับเท็จหรือไม่
โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยืนยันว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อนและยังไม่ถึงทางตันแน่นอน ยังมีบุคคลที่ยังไม่พูดความจริง แต่เชื่อว่าทางตำรวจจะเร่งทำคดีให้เร็วที่สุดและจะติดตามคดีในทุกวัน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนยังรอฟังคำตอบ.
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ดูเหมือนจะมีข้อมูลเด็ดอยู่ในมือด้วย เพราะ วันนี้ระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวนจนถึงขณะนี้มั่นใจว่า พ่อและแม่ของเด็ก รู้กันอย่างแน่นอน พร้อมสันนิษฐานว่า เด็กอาจจะไม่อยู่แล้ว
ส่วนสาเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานเอาไว้ว่า อาจจะเป็นการทำร้ายลูก การทะเลาะเบาะแว้งกัน รวมไปถึงน้องต่อวัย 8 เดือน อาจจะไม่ใช่ลูกชายของพ่อคนนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันทางดีเอ็นเอ