พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยว่า สำหรับ นายกิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร หรือบิ๊ก พี่น้องตระกูล 4 บ. 1 ใน 7 ที่ถูกออกหมายจับ รอบล่าสุด ได้พยายามติดต่อเข้ามาขอมอบตัวกับตำรวจ โดยยื่นเงื่อนไข จะต้องได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แต่ตำรวจไม่สามารถรับเงื่อนไขนี้ได้ ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ยังไม่มีการติดต่อเข้ามาอย่างเป็นทางการเหมือนที่มีการนำเสนอข่าวออกไป
ศาลอนุมัติหมายจับ"บิ๊ก" น้องชายเบนซ์ เดม่อน เอี่ยวเว็บพนัน “มาเก๊า 888”
จ่อขอหมายแดงจับ “บิ๊ก” น้องชายเบนซ์ เดม่อน คดีเว็บพนันมาเก๊า 888
ส่วนหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือ ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว คาดว่า จะได้ตัวผู้ต้องหาบางส่วนเร็ว ๆ นี้ และ มีข้อมูลว่าผู้ต้องหา 2 คน มีการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติหลายครั้ง ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นที่หลบหนีหมายจับ ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้เรียกพยานมาสอบปากคำแล้วหลายสิบปาก คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีข้อมูลเพิ่มเติม
ส่วนผู้ต้องหา 4 ใน 13 หมายจับ รอบแรก ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ยังไม่มีใครประสานเข้ามาขอมอบตัว
นอกจากนี้ มีรายงานว่า “นายปิ๊ก” คนสนิท นายกิตติพงษ์ หรือบิ๊ก ซึ่งเป็นคนว่า จ้างสองพริตตี้สาวให้มาแสดงมิวสิกวิดีโอเพลงมาเก๊า888 รวมถึงว่าจ้าง MC King แรปเปอร์คนแต่งและร้องเพลงมาเก๊า 888 จะติดต่อเข้ามาพบตำรวจตามหมายเรียกในวันพรุ่งนี้
ส่วนที่มีข้อมูลว่า นางสาวอริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือดิว นักแสดงสาว ที่ตำรวจเดินทางไปขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ไต้หวัน จะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 16 มี.ค.นี้ เบื้องต้น ยังไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทางกลับจากนักแสดงสาว คาดว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม
ขณะเดียวกันวันนี้ ตำรวจไซเบอร์ แถลงผลปฏิบัติการตามยุทธการ "ปิดJOB-SHOPทิพย์” จับกุมผู้ต้องหาหลอกขายสินค้า และบริการผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ามาแจ้งความที่ศูนย์รับเเจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2565-28 ก.พ.2566 รวม 210,000 เคส
เป็นเรื่องการหลอกขายสินค้าออนไลน์ มากที่สุด คือ 70,000 เคส ส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงซื้อขายสินค้าและการบริการ รวมถึงการร่วมลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านสื่อออนไลน์ จึงตรวจสอบข้อมูลผู้เสียหาย แบ่งเป็น 14 กลุ่มคดี แยกเป็น 4 ประเภท คือ การหลอกลวงซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภค การหลอกลวงซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การหลอกลวงร่วมลงทุนธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลและการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ และการหลอกลวงซื้อขายบัตรกำนัล การบริการการท่องเที่ยวและรับจ้างทวงหนี้
โดยมีประชาชนกว่า 500 คน ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ มีผู้ได้รับความเสียหายตั้งแต่ 110 บาท ไปจนถึง1.6 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 35 ล้านบาท สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 26 คน
สำหรับการกระทำในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ฯ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างเร่งรัดติดตามจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป