วันที่ 28 พ.ค. 2566 ตัวแทนผู้เสียหายกว่า 20คน เข้าร้องกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็น อดีต ส.ส. ตัวย่อ "อ." เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในรัฐบาลชุดก่อน โดยเป็นพรรคที่มีสมาชิกสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ สามารถส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งได้มากกว่า 300 เขตทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันพรรคดังกล่าวถูกยุบไปแล้ว แต่แม้จะเป็นถึงหัวหน้าพรรค กลับมีพฤติการณ์หลอกลวง และไม่จ่ายเงินหลายอย่าง
มุมมองนายจ้าง ผ่านโยบายค่าแรงขั้นต่ำ แก้ปัญหาค่าครองชีพ?
จับ “นักข่าว” แอบอ้างชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” รีดเงิน 33 ล้านบาท แก๊งอุ้มบุญจีนเทา
เช่น เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา อดีต ส.ส. รายนี้ได้จัดงานวันเกิดแบบโต๊ะจีน 4,000 ที่นั่งในจังหวัดสระบุรี มีการจ้างทีมงานมาจัดงาน จัดไฟ จัดกิจกรรมการละเล่น แต่เมื่อเลิกงานกลับไม่จ่ายเงินให้ทีมงานต่างๆ มีเพียงวงดนตรีที่ได้รับเงินค่าจ้าง เพราะเรียกเก็บเงินก่อนขึ้นแสดง อีกทั้งยังไปบอกให้พ่อค้าแม่ค้าให้นำเสื้อผ้าไปแจกให้ผู้ร่วมงาน และติดต่อร้านค้าข้าวสาร สั่งข้าวสาร 5,000 ถุงไปแจก บอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเอง แต่สุดท้ายก็เบี้ยวไม่จ่ายเงิน มูลค่าความเสียหายทั้งหมดในงานดังกล่าวกว่า 5 แสนบาท
ซึ่งผู้เสียหายหลายคนหลงเชื่อเพราะอดีต ส.ส. "อ." มี ส.ส. จะลงพื้นที่พร้อมรัฐมนตรีคนดังหลายคน เหมือนมีความสนิทสนมกันจริง ดูน่าเชื่อถือทำให้ยอมออกค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่างๆให้ก่อนและทุกครั้งเมื่อทวงถามเงิน อดีต ส.ส. "อ." ก็จะผัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็บล็อกช่องทางการติดต่อทุกช่องทาง
ล่าสุดหลังจัดงานวันเกิดแล้ว ก็หายตัวไป เพิ่งจะติดต่อมาเมื่อเช้า เพราะทราบว่าผู้เสียหายจะมาร้องเพจสายไหมต้องรอด ในลักษณะถามว่าจะมาทำอะไร นอกจากนี้ยังมีการข่มขู่ผู้เสียหายว่าจะฟ้องกลับฐานแจ้งความเท็จมาโดยตลอด ทำให้ผู้เสียหายหลายคนหวาดกลัว
ทั้งนี้พฤติกรรมลักษณะนี้เชื่อว่าทำมานานหลายปีแล้ว เพราะมีผู้เสียหายบางคนให้ข้อมูลมาว่าถูกเบี้ยวเงินโต๊ะจีนเมื่อ 6 ปีก่อน และร้านค้าเจ้าใหญ่ๆ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีต่างรู้วีรกรรมดี ทำให้ไม่มีใครเชื่อแล้ว ครั้งนี้ ส.ส. "อ." ต้องจ้างร้านค้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจัดงานวันเกิดให้แทน
นอกจากนี้อดีต ส.ส. "อ." ยังเป็นหัวหน้าพรรค ที่เบิกงบ กกต. ไปกว่า 17.7 ล้านบาท โดยกรรมการพรรคไม่เคยทราบ ไม่เคยพูดคุยในการประชุมพรรค แต่กลับมีการปลอมเอกสารการประชุมส่ง กกต. ว่าคุยเรื่องนำเงินไปใช้ประโยชน์ จนสุดท้าย กกต.มีหนังสือทวงหนี้มาถึงกรรมการพรรคกว่า 60 คนแทน เพราะติดต่อหัวหน้าพรรคไม่ได้ ยังไม่นับที่ อดีต ส.ส. "อ." เบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าหาเสียงให้กับผู้สมัครแต่ละเขตกว่า 300 เขต ความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท และเบี้ยวจ่ายเงินเดือนพนักงาน แม่บ้านและลูกจ้างที่ทำงานในที่ทำการพรรค 7 เดือน จนหลายคนเดือดร้อนถึงขั้นหมดตัว
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งคดีของผู้เสียหายทั้งหมดมีการแจ้งความไว้ในสถานีตำรวจท้องที่แล้วก็จะประสานติดตามความคืบหน้าคดี ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หาก อดีต ส.ส. รายนี้ ทำผิดจริง ก็อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมาก และต้องถูกดำเนินคดี
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP สังคม
- วิดีโอยอดนิยม
