สภาพตลาดและชุมชนใน ต.มูโนะ จ.นราธิวาส โดยบ้านเรือนและร้านค้า กว่า 300 หลังคาเรือน ต้องพังราบเป็นหน้ากลอง จากแรงระเบิดของพลุและดอกไม้ไฟ ที่ถูกเก็บในโกดังของร้านวิรวัฒน์พาณิชย์ ถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศในปีนี้
โดยเหตุการณ์นี้คร่าชีวิตชาวบ้านไปถึง 12 ชีวิต บาดเจ็บหลายร้อยคน และยังไร้ที่อยู่อาศัย เครื่องมือทำมาหากินเสียหาย แม้หลายคนรอดชีวิตชาวบ้านไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร
ล่าสุดเพจดังที่ว่านี้คือเพจ Golok Spotlight ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า โกดังของร้านนี้ลักลอบเก็บประทัดมานานแล้ว ส่วนเจ้าของคนในพื้นที่รู้จักดีในชื่อ เถ้าแก่ไหว (นายสมปอง ณ กุล) กับ เจ๊หลิน (น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์) เปิดหน้าร้านขายของเบ็ดเตล็ดบังหน้า แต่ฉากหลังทำธุรกิจค้าขายประทัดและพลุส่งออกมาเลเซีย รายใหญ่ของอำเภอ
ทั้งนี้มีข้อมูลว่าทั้ง 2 คน ถูกชุดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ของจังหวัด จับกุมในข้อหาซุกซ่อนพลุและประทัดเป็นจำนวนมากเมื่อปี 59 แต่สุดท้ายก็วิ่งเต้นจนหลุดคดีมาได้ ซึ่งปัจจุบันจ่ายเงินให้ตำรวจในพื้นที่ คือ สภ.มูโนะ เป็นค่าดูแลโกดังและธุรกิจสีเทา เดือนละ 30,000-50,000 บาท โดยมีจ่าฟาโร ซึ่งผู้ประกอบการในตลาดมูโนะรู้จักดี เป็นผู้ดำเนินการเก็บเงินส่วนนี้
เพจดังกล่าวยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นหลายวันแล้วแต่ใน สภ.มูโนะ กลับไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะนี่คือต้นเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
"วิโรจน์" เตรียมลากไส้ขบวนการ "ส่วยมูโนะ" 3 ส.ค.
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้รับข้อมูลมาตรงกับเพจดัง พร้อมแฉด้วยว่าเมื่อครั้งที่ 2 สามี-ภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุถูกจับเมื่อปี 59 ยึดของกลางได้มหาศาลถึง 20 ตัน หรือ 20,000 กิโลกรัม ใน 2 โกดัง แต่สุดท้ายก็หลุดคี เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อง
และครั้งนี้มีการปล่อยให้มีโกดังเก็บพลุปริมาณ 5 ตัน ใจกลางชุมชน จนเกิดโศกนาฏกรรม เพราะฉะนั้นจะตัดตอนเอาผิดแค่เจ้าของโกดังไม่ได้ ต้องเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นอกจากส่วยโกดังเก็บพลุ ในพื้นที่ยังมีธุรกิจสีเทา ธุรกิจผิดกฎหมาย อีกจำนวนมาก ทั้งสินค้าหนีภาษี การค้ามนุษย์ ยาเสพติด พร้อมฝากไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่าจะดำเนินอย่างไร หรือจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ กดขี่ รีดไถ รังแกประชาชน จนทำให้คนในพื้นที่รู้สึกหวาดระแวง และไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐอย่างนี้ต่อไป
ขณะที่ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ นายวิโรจน์ จะจะอภิปรายเรื่องนี้ในสภา หวังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่าง รมว.มหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง ผบ.ตร. และแม่ทัพภาค 4 จะตระหนักถึงปัญหาส่วยและการรีดไถประชาชน ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส และ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเร่งปราบปรามให้หมดไปโดยเร็ว
คืบหน้า โกดังเก็บประทัดระเบิด! นราธิวาส เสียชีวิต 9 ราย เจ็บ 115 ราย
นายกฯ สั่งเร่งสำรวจ-เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เหตุโกดังพลุระเบิดที่นราธิวาส
แชร์ว่อนโลกโซเชียล คาดว่าเป็นด้านในของโกดังพลุที่เกิดเหตุ
ทีมข่าว PPTV ได้โทรไปสอบถามเรื่องดังกล่าวกับ พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ถึงเรื่องดังกล่าว โดยทางรองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ให้ข้อมูลว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 59 ทางกอ.รมน.ภาค 4 จะต้องไปตรวจสอบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการใด ที่เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวนี้
ด้านทางพลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ก็ให้ข้อมูลว่า เพิ่งจะทราบเรื่องจากสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าว และตนจะสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ซึ่งหากพบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย